ศัลยกรรมสะดือจุ่น ให้ดูดีทุกมุมมอง เสกสะดือใหม่ที่เลอลักษณ์

ศัลยกรรมสะดือ เป็นหนึ่งในหัตถการด้านความงามที่หลายคนอาจมองข้าม แต่ในความจริงแล้ว “สะดือ” เป็นจุดศูนย์กลางของหน้าท้องที่ส่งผลต่อภาพรวมของรูปร่างมากกว่าที่คิด โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่รักการแต่งตัว โชว์หน้าท้อง หรือต้องการให้ลุคโดยรวมดูสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น หากสะดือมีรูปร่างไม่สวย เช่น สะดือจุ่น สะดือยื่น หรือมีผิวหนังหย่อนคล้อยจากการคลอดหรือการลดน้ำหนักมาก อาจส่งผลต่อความมั่นใจในการใช้ชีวิตประจำวันได้

 

โรงพยาบาลเลอลักษณ์ จึงนำเสนอบริการ ศัลยกรรมสะดือ ที่ไม่เพียงแค่แก้ไขลักษณะของสะดือให้ดูสวยงามสมส่วน แต่ยังมาพร้อมเทคนิคเฉพาะที่ออกแบบโดยทีมศัลยแพทย์มากประสบการณ์ เพื่อผลลัพธ์ที่กลมกลืนเป็นธรรมชาติ และลดรอยแผลให้เล็กที่สุด ด้วยการผ่าตัดแบบละเอียดและการดูแลหลังการผ่าตัดอย่างมืออาชีพ ทำให้ลูกค้าหลายรายกลับมาพร้อมรอยยิ้มและความมั่นใจ

 

บทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับการ ศัลยกรรมสะดือ ตั้งแต่เทคนิค วิธีการทำ ใครบ้างที่ควรทำ ข้อดี-ข้อเสียที่ควรรู้ รีวิวจากเคสจริง ไปจนถึงราคาค่ารักษาที่โปร่งใส พร้อมโปรโมชั่นพิเศษของโรงพยาบาลเลอลักษณ์ที่ไม่ควรพลาด หากคุณกำลังมองหาวิธีเสริมความมั่นใจให้รูปร่างและหน้าท้องของคุณดูดีขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ บทความนี้จะเป็นคำตอบให้คุณได้ครบทุกแง่มุม

ศัลยกรรมสะดือ คืออะไร? เหมาะกับใครบ้าง

ศัลยกรรมสะดือ หรือการผ่าตัดตกแต่งสะดือ (Umbilicoplasty) คือหัตถการทางศัลยกรรมที่มีจุดประสงค์เพื่อปรับรูปร่าง รูปทรง หรือตำแหน่งของสะดือให้สวยงามและสมส่วนมากขึ้น ซึ่งอาจรวมถึงการแก้ไขลักษณะสะดือที่ยื่นออกมาเกินปกติ (ที่เรียกกันว่า “สะดือจุ่น”) หรือสะดือที่บิดเบี้ยว ไม่ได้รูปจากพันธุกรรม การตั้งครรภ์ หรือการลดน้ำหนักจำนวนมากในระยะเวลาสั้น

 

ศัลยกรรมสะดือมักเป็นที่นิยมในกลุ่มคนที่ต้องการเพิ่มความมั่นใจเมื่อต้องใส่เสื้อโชว์หน้าท้อง เช่น บิกินี่ สปอร์ตบรา หรือชุดแฟชั่นที่เผยหน้าท้อง เพราะแม้จะมีหน้าท้องที่แบนราบแล้ว แต่ถ้าสะดือดูไม่สวยงามหรือไม่สมดุล ก็อาจทำให้ลุคโดยรวมขาดความสมบูรณ์

ใครบ้างที่ควรพิจารณาทำศัลยกรรมสะดือ?

  • ผู้ที่มีลักษณะสะดือผิดรูปมาตั้งแต่กำเนิด เช่น สะดือจุ่น หรือสะดือบอดผิดธรรมชาติ
  • ผู้หญิงหลังคลอด ที่ผิวหนังบริเวณหน้าท้องหย่อนยาน และสะดือเสียรูปจากการยืดขยายของหน้าท้อง
  • ผู้ที่เคยลดน้ำหนักจำนวนมาก ทำให้ผิวหนังบริเวณหน้าท้องรวมถึงสะดือเกิดการหย่อนคล้อย
  • ผู้ที่เคยผ่าตัดบริเวณหน้าท้อง จนสะดือเสียทรงหรือมีแผลเป็น
  • ผู้ที่ต้องการปรับรูปทรงสะดือให้เหมาะกับรูปร่าง เพื่อให้แต่งกายได้อย่างมั่นใจ

นอกจากเพื่อความงามแล้ว ศัลยกรรมสะดือยังช่วยฟื้นฟูความมั่นใจในตนเองของผู้เข้ารับบริการได้อย่างมาก โดยเฉพาะในยุคปัจจุบันที่แฟชั่นเน้นโชว์รูปร่างมากขึ้น ซึ่งการมีสะดือที่สวยสมส่วน จะทำให้หน้าท้องดูเนียนเรียบและมีมิติ ช่วยเสริมบุคลิกภาพโดยรวมได้เป็นอย่างดี

ทำไมคนรุ่นใหม่ถึงนิยม “ศัลยกรรมผ่าตัดสะดือ” เสริมบุคลิกภาพ

ในยุคที่แฟชั่นและความมั่นใจในการแสดงออกเป็นส่วนสำคัญของบุคลิกภาพ คนรุ่นใหม่จำนวนไม่น้อยเริ่มหันมาให้ความสำคัญกับ “รายละเอียดเล็ก ๆ” บนร่างกายมากขึ้น หนึ่งในจุดที่กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ ก็คือ “สะดือ” ซึ่งถือเป็นศูนย์กลางของหน้าท้อง และสามารถส่งผลต่อความสวยงามโดยรวมของรูปร่างได้อย่างชัดเจน

  1. ความหมายของการผ่าตัดสะดือเพื่อความงาม
    ผ่าตัดสะดือ ไม่ได้มีจุดประสงค์ทางการแพทย์เป็นหลัก แต่เป็นศัลยกรรมเพื่อเสริมความงามและบุคลิกภาพของผู้รับบริการ โดยจะทำการปรับรูปร่างหรือโครงสร้างของสะดือ เช่น ลดความจุ่นที่ยื่นออกมา หรือจัดเรียงรูปร่างให้ดูโค้งมน สมดุลมากขึ้น ซึ่งช่วยให้สะดือดูสวยแบบธรรมชาติ และกลมกลืนกับรูปร่างของผู้ป่วยมากที่สุด
  2. สะดือจุ่นไม่ใช่ปัญหาสุขภาพ แต่ทำให้เสียความมั่นใจ
    แม้ สะดือจุ่น จะไม่ใช่ปัญหาทางสุขภาพโดยตรง แต่ก็ถือเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ลดความมั่นใจของใครหลายคน โดยเฉพาะเมื่อใส่เสื้อผ้าที่โชว์หน้าท้อง เช่น เสื้อครอป บิกินี่ หรือชุดออกกำลังกาย ยิ่งในกลุ่มวัยรุ่นและคนทำงานที่ต้องการภาพลักษณ์ดี การมีสะดือที่สวยงามก็ถือเป็นเรื่องสำคัญไม่น้อย ทำให้หลายคนเลือกเข้ารับการศัลยกรรมผ่าตัดสะดือเพื่อความมั่นใจที่มากขึ้น
  3. เทรนด์สะดือสวยเรียบกับการแต่งตัวแฟชั่น
    ในโลกแฟชั่นปัจจุบัน เสื้อโชว์หน้าท้อง กลายเป็นหนึ่งในไอเท็มฮิตของคนรุ่นใหม่ ไม่ว่าจะเป็นสายแต่งตัวสตรีท สายมินิมอล หรือแม้แต่สายฟิตเนสก็ตาม การมีหน้าท้องที่แบนเรียบและสะดือที่ได้รูปจึงเป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบที่ช่วยเสริมลุคให้ดู “คลีน” “เฟิร์ม” และ “มั่นใจ” มากขึ้น ศัลยกรรมสะดือจึงเข้ามาเป็นทางเลือกของผู้ที่ต้องการพัฒนาให้ภาพลักษณ์ของตนเองดูดีจากทุกมุมมอง

เทคนิคการศัลยกรรมสะดือในปัจจุบันมีอะไรบ้าง

ในปัจจุบัน การศัลยกรรมสะดือไม่เพียงแค่เป็นเรื่องของการแก้ไขความผิดปกติ แต่ยังเป็นหนึ่งในทางเลือกด้านความงามที่ช่วยให้หน้าท้องดูเรียบ สะอาดตา และเหมาะกับการแต่งตัวสมัยใหม่ โดยมีเทคนิคที่ได้รับความนิยมหลายวิธี ดังนี้

ผ่าตัดสะดือจุ่น คืออะไร?

การผ่าตัดสะดือจุ่น (Umbilicoplasty) เป็นการแก้ไขสะดือที่ยื่นออกมานอกหน้าท้องให้กลับเข้ารูปอย่างเรียบเนียน แพทย์จะทำการกรีดเปิดผิวหนังบริเวณรอบสะดือ แล้วตัดหรือจัดเรียงเนื้อเยื่อภายในใหม่ พร้อมกับเย็บตกแต่งรูปร่างของสะดือให้กลมกลืนกับหน้าท้อง หลังการผ่าตัดสะดือจะไม่ยื่นออกมาเหมือนเดิม และมีลักษณะดูเป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น

ผ่าตัดสะดือแบบเปิด (Open Technique)

เทคนิคการผ่าตัดแบบเปิดเป็นวิธีมาตรฐานที่แพทย์ใช้เพื่อควบคุมรูปร่างและตำแหน่งของสะดือได้อย่างแม่นยำ โดยเฉพาะในกรณีที่ต้องการปรับโครงสร้างสะดือร่วมกับการทำหน้าท้อง เช่น ตัดหนังหน้าท้องหรือดูดไขมันร่วมด้วย การผ่าตัดแบบเปิดสามารถซ่อนแนวแผลไว้ใต้ผิวหรือแนวพับตามธรรมชาติของสะดือ ทำให้หลังผ่าตัดแผลดูแนบเนียนและไม่โดดเด่น

การเย็บแก้ไขรูปทรงสะดือจากภายใน

ในบางเคสที่สะดือไม่ได้ยื่นออกมา แต่มีรูปร่างไม่สมดุลหรือเบี้ยว แพทย์อาจใช้เทคนิคเย็บจากด้านใน (Internal Suture) เพื่อควบคุมรูปทรงโดยไม่จำเป็นต้องเปิดแผลกว้าง วิธีนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปรับแต่งเพียงเล็กน้อย และต้องการให้แผลเป็นหลังการผ่าตัดน้อยที่สุด

ศัลยกรรมสะดือควบคู่กับการทำหน้าท้องแบนราบ

ผู้ที่มีหน้าท้องหย่อนคล้อยหรือไขมันสะสมจำนวนมาก สามารถเลือกทำศัลยกรรมสะดือร่วมกับการดูดไขมันหรือตัดหนังหน้าท้องในคราวเดียวกันได้ เทคนิคนี้จะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้น หน้าท้องดูเรียบเนียน และสะดืออยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม ทั้งยังช่วยลดจำนวนรอบการผ่าตัดและระยะพักฟื้น

ขั้นตอนการศัลยกรรมผ่าตัดสะดือ

การศัลยกรรมสะดือ หรือการผ่าตัดสะดือ เป็นหัตถการที่ใช้เพื่อปรับแต่งรูปร่างของสะดือให้มีความสมส่วน สวยงาม และเหมาะสมกับสัดส่วนของหน้าท้อง ซึ่งขั้นตอนในการผ่าตัดสะดือที่โรงพยาบาลเลอลักษณ์จะดำเนินการโดยศัลยแพทย์เฉพาะทางที่มีประสบการณ์สูง และมีการวางแผนอย่างรัดกุมตามหลักการแพทย์ ดังนี้

  1. การประเมินและวางแผนผ่าตัด
    ก่อนทำการผ่าตัด แพทย์จะประเมินรูปร่างหน้าท้อง ลักษณะของสะดือ ความยื่น ความตื้น หรือกรณีสะดือจุ่น รวมถึงสอบถามประวัติสุขภาพของผู้ป่วยอย่างละเอียด เพื่อกำหนดแนวทางการผ่าตัดที่เหมาะสมที่สุด และให้คำปรึกษาเกี่ยวกับผลลัพธ์ที่คาดหวัง
  2. การฉีดยาชาหรือดมยาสลบ
    ขึ้นอยู่กับระดับความซับซ้อนของการผ่าตัดและดุลยพินิจของแพทย์ อาจใช้ยาชาเฉพาะที่สำหรับเคสเล็ก หรือใช้วิธีดมยาสลบหากเป็นการผ่าตัดร่วมกับการทำศัลยกรรมอื่น เช่น ดูดไขมันหน้าท้อง
  3. การผ่าตัดและปรับโครงสร้างสะดือ
    แพทย์จะทำการเปิดแผลขนาดเล็กบริเวณสะดือ และทำการตัดแต่งผิวหนังหรือไขมันส่วนเกิน พร้อมทั้งเย็บยึดโครงสร้างภายในเพื่อปรับระดับความลึก ความสูง และความโค้งของสะดือให้สมดุล โดยรอยแผลจะถูกซ่อนในแนวที่มองเห็นได้น้อยที่สุด
  4. การเย็บแผลและการปิดแผล
    เมื่อทำการปรับแต่งเรียบร้อย แพทย์จะทำการเย็บแผลอย่างประณีตเพื่อให้รอยแผลเล็กที่สุดและหายได้เร็ว พร้อมทั้งใช้วัสดุทางการแพทย์ที่ช่วยลดรอยแผลเป็น เช่น แผ่นปิดแผลแบบซิลิโคน
  5. การดูแลหลังผ่าตัด
    หลังการผ่าตัด ผู้ป่วยจะได้รับคำแนะนำในการดูแลแผล เช่น หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก งดก้มตัวแรง ๆ และหลีกเลี่ยงการโดนน้ำบริเวณแผลในช่วงแรก รวมถึงการเข้ารับการตรวจติดตามแผลตามนัดอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้แน่ใจว่าแผลหายดีและไม่เกิดภาวะแทรกซ้อน

ศัลยกรรมสะดือ ที่ไหนดี? ทำไมต้องโรงพยาบาลเลอลักษณ์

เมื่อพูดถึง ศัลยกรรมสะดือ หลายคนอาจมองว่าเป็นเรื่องเล็ก แต่ความจริงแล้ว การผ่าตัดตกแต่งสะดือนั้นเป็นศัลยกรรมที่ต้องอาศัยความประณีต ความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์เฉพาะทางของแพทย์ เนื่องจากสะดืออยู่บริเวณกึ่งกลางลำตัว เป็นจุดเด่นสำคัญของ “รูปร่าง” และ “สัดส่วน” โดยเฉพาะในผู้หญิงที่ชื่นชอบแฟชั่นครอปท็อปหรือบิกินี่ การจะเลือกสถานพยาบาลที่มีมาตรฐานและน่าเชื่อถือ จึงเป็นเรื่องสำคัญมาก และหนึ่งในตัวเลือกที่ได้รับความไว้วางใจมาโดยตลอดก็คือ โรงพยาบาลเลอลักษณ์

  1. ทีมศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง
    โรงพยาบาลเลอลักษณ์มีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้าน ศัลยกรรมตกแต่งและรูปร่าง ที่มีประสบการณ์ในการผ่าตัดสะดือโดยตรง ซึ่งสามารถให้คำปรึกษาเฉพาะบุคคล วิเคราะห์ปัญหาโครงสร้างสะดือ รูปร่างหน้าท้อง และเสนอแนวทางแก้ไขอย่างปลอดภัยและตรงจุด ไม่ว่าจะเป็นเคส สะดือจุ่น, สะดือแบน, หรือการ แก้ไขสะดือหลังผ่าตัดหน้าท้อง ก็สามารถจัดการได้ครบวงจร
  2. ห้องผ่าตัดปลอดเชื้อมาตรฐานโรงพยาบาล
    ต่างจากคลินิกทั่วไปที่อาจไม่มีห้องผ่าตัดปลอดเชื้อระดับโรงพยาบาล โรงพยาบาลเลอลักษณ์มีห้องผ่าตัดที่ผ่านการรับรองตามมาตรฐานความปลอดภัยทางการแพทย์ อุปกรณ์และเครื่องมือทุกชิ้นได้รับการฆ่าเชื้อและควบคุมโดยทีมวิสัญญีแพทย์และพยาบาลวิชาชีพ ทำให้มั่นใจได้ว่าการผ่าตัดจะปลอดภัย ลดความเสี่ยงของการติดเชื้อหรือแผลอักเสบหลังผ่าตัด
  3. รีวิวจากผู้ใช้บริการจริง
    โรงพยาบาลเลอลักษณ์ได้รับการรีวิวจากผู้รับบริการจริงจำนวนมาก ทั้งในเว็บไซต์ Pantip, YouTube และ Google Review โดยเฉพาะในเคส ศัลยกรรมสะดือควบคู่กับการดูดไขมันหน้าท้อง หรือ ตัดหนังหน้าท้อง ผู้รับบริการต่างพึงพอใจกับผลลัพธ์ที่ได้สะดือสวย ได้รูป แผลน้อย และการฟื้นตัวเร็ว ทำให้เป็นหนึ่งในโรงพยาบาลที่ได้รับความนิยมในกลุ่มคนรักรูปร่าง
  4. ราคาโปร่งใส พร้อมแพ็กเกจที่ชัดเจน
    โรงพยาบาลเลอลักษณ์ให้ข้อมูลค่าใช้จ่ายแบบตรงไปตรงมา ไม่มีค่าใช้จ่ายแอบแฝง มีแพ็กเกจราคา “ผ่าตัดสะดือจุ่น” “ศัลยกรรมสะดือพร้อมดูดไขมัน” หรือ “สะดือหลังทำหน้าท้อง” ให้เลือกอย่างหลากหลาย พร้อมมีที่ปรึกษาคอยดูแลตลอดกระบวนการ

ข้อควรรู้ก่อนผ่าตัดสะดือ และการดูแลหลังผ่าตัด

การ ศัลยกรรมสะดือ อาจเป็นหัตถการเล็ก แต่ต้องใช้ความละเอียดและความแม่นยำสูง เพราะอยู่ในบริเวณกลางลำตัวและส่งผลต่อภาพลักษณ์โดยรวมของหน้าท้องโดยตรง ก่อนตัดสินใจผ่าตัดสะดือหรือ ผ่าตัดสะดือจุ่น ผู้เข้ารับบริการควรมีความเข้าใจที่ถูกต้อง และเตรียมตัวล่วงหน้าอย่างเหมาะสม เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาสวย เรียบเนียน และปลอดภัยในระยะยาว

การเตรียมตัวก่อนผ่าตัดศัลยกรรมสะดือ

  1. ตรวจสุขภาพก่อนผ่าตัด
    ควรแจ้งประวัติการแพ้ยา โรคประจำตัว หรือการใช้ยาปัจจุบันให้แพทย์ทราบ รวมถึงงดการใช้ยากลุ่มแอสไพริน วิตามิน E หรือสมุนไพรบางชนิดที่ส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือดอย่างน้อย 7 วันก่อนผ่าตัด
  2. งดอาหารและน้ำก่อนผ่าตัด
    หากศัลยกรรมสะดือใช้ยาชาเฉพาะที่ อาจไม่ต้องงดอาหาร แต่หากใช้วิธีวางยาสลบหรือยาสลบเบา (sedation) ควรงดอาหารอย่างน้อย 6–8 ชั่วโมงก่อนผ่าตัด
  3. เลือกเสื้อผ้าที่สวมใส่สบายในวันผ่าตัด
    เพื่อความสะดวกหลังการผ่าตัด ควรสวมเสื้อผ้าที่เปิดด้านหน้าหรือมีซิป เพื่อหลีกเลี่ยงการกดทับบริเวณหน้าท้อง
  4. จัดเตรียมช่วงพักฟื้นล่วงหน้า
    หากทำงานประจำ ควรลางานประมาณ 3–7 วัน ขึ้นอยู่กับประเภทของการผ่าตัดสะดือ และอาการบวม/ช้ำที่อาจเกิดขึ้น

การดูแลแผลหลังผ่าตัดสะดือไม่ให้เกิดรอยนูน

  1. หลีกเลี่ยงการจับ ดึง หรือขยี้บริเวณแผล
    การรบกวนแผลจะเพิ่มโอกาสการติดเชื้อหรือเกิดพังผืด ซึ่งอาจส่งผลต่อรูปทรงของสะดือในอนาคต
  2. ทำความสะอาดแผลตามคำแนะนำแพทย์เท่านั้น
    ส่วนใหญ่จะมีการปิดแผลด้วยแผ่นซับแผลชนิดกันน้ำ และควรเปลี่ยนแผลอย่างถูกวิธี โดยเว้นระยะให้แผลแห้งและไม่อับชื้น
  3. หลีกเลี่ยงการเคลื่อนไหวที่ทำให้หน้าท้องตึง
    การลุก นั่ง ก้มตัว หรือเกร็งหน้าท้องมากเกินไปในช่วง 1–2 สัปดาห์แรก อาจทำให้แผลปริหรือเกิดรอยนูนได้
  4. หลีกเลี่ยงการยกของหนักและออกกำลังกายหนัก
    ควรงดกิจกรรมที่เพิ่มแรงดันในช่องท้อง เช่น วิ่ง ยกเวท หรือซิทอัพ อย่างน้อย 3–4 สัปดาห์

ข้อควรระวัง เช่น การเคลื่อนไหวผิดท่าในช่วงพักฟื้น

  • นอนในท่ากึ่งเอน (Semi-Fowler Position) หรือหนุนหมอนใต้เข่าเพื่อไม่ให้หน้าท้องตึง
  • ไม่ควรแช่น้ำหรือว่ายน้ำจนกว่าแผลจะปิดสนิท
  • หลีกเลี่ยงการสวมกางเกงรัดหน้าท้องหรือกางเกงยีนส์ในช่วงพักฟื้น
  • สังเกตอาการผิดปกติ เช่น แผลแดง บวมร้อน มีหนอง หรือมีไข้ และรีบแจ้งแพทย์ทันที

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับศัลยกรรมสะดือ (FAQ)

Q: ผ่าตัดสะดือเจ็บไหม?
A: การผ่าตัดสะดือมักทำโดยใช้ยาชาเฉพาะที่หรือดมยาสลบ ซึ่งจะไม่รู้สึกเจ็บในระหว่างการผ่าตัด หลังการผ่าตัดอาจรู้สึกตึงเล็กน้อยหรือปวดในระดับที่สามารถควบคุมได้ด้วยยาแก้ปวดที่แพทย์สั่ง

 

Q: หลังผ่าตัดใช้เวลาพักฟื้นนานไหม?
A: โดยทั่วไปใช้เวลาพักฟื้นประมาณ 3–7 วัน และสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติใน 1–2 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับลักษณะการผ่าตัดและการดูแลแผล

 

Q: สะดือจะดูเป็นธรรมชาติแค่ไหนหลังผ่าตัด?
A: หากได้รับการดูแลจากศัลยแพทย์ที่มีความชำนาญ สะดือจะมีรูปร่างเป็นธรรมชาติ สมส่วน และกลมกลืนกับรูปร่างหน้าท้องได้ดีมาก โดยเฉพาะเมื่อใช้เทคนิคเย็บแผลภายในและมีการซ่อนรอยแผลอย่างเหมาะสม

 

Q: ผ่าตัดสะดือจุ่น ทำตอนผู้ใหญ่ได้ไหม?
A: ได้แน่นอน การผ่าตัดสะดือจุ่นสามารถทำได้ทั้งในวัยรุ่นและผู้ใหญ่ หากไม่มีข้อห้ามทางการแพทย์ เป็นการแก้ไขเพื่อเสริมความมั่นใจและรูปลักษณ์ทางร่างกาย

 

Q: ผ่าตัดสะดือร่วมกับการดูดไขมันหน้าท้องได้ไหม?
A: ได้ค่ะ ศัลยกรรมสะดือสามารถทำร่วมกับการดูดไขมันหรือการผ่าตัดหน้าท้องได้ เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาสมดุล ได้รูปทรงหน้าท้องที่กระชับและสะดือที่สวยงามในคราวเดียว