ดูดไขมันทั้งตัว เปลี่ยนหุ่นใหม่ในครั้งเดียว รีวิวแน่นพร้อมโปรที่เลอลักษณ์

รูปร่างที่สวยงามและสมส่วน คือหนึ่งในองค์ประกอบที่ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับหลาย ๆ คนในยุคปัจจุบัน โดยเฉพาะในยุคที่เสื้อผ้าสไตล์รัดรูป ชุดว่ายน้ำ หรือการถ่ายภาพแบบเผยรูปร่างกลายเป็นเรื่องธรรมดา สำหรับคนที่พยายามลดน้ำหนักมาหลายวิธี แต่ไ0ขมันดื้อยังคงอยู่ในหลายจุด การ “ดูดไขมันทั้งตัว” จึงเป็นทางลัดที่ตอบโจทย์ ทั้งในแง่ของความรวดเร็วและผลลัพธ์ที่เห็นได้ชัดเจนในระยะเวลาอันสั้น

 

ที่โรงพยาบาลเลอลักษณ์ เราเข้าใจดีว่าการตัดสินใจทำศัลยกรรมไม่ใช่เรื่องเล็ก โดยเฉพาะการดูดไขมันทั้งตัวที่เกี่ยวข้องกับหลายส่วนในร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นหน้าท้อง เอว ต้นแขน ต้นขา หรือแม้แต่แก้มและเหนียง ซึ่งแต่ละจุดล้วนมีเทคนิคเฉพาะตัวในการดูแลและจัดการ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ปลอดภัยและดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด ทีมแพทย์ของเราจึงพร้อมให้คำปรึกษาและออกแบบแผนเฉพาะบุคคลให้เหมาะกับรูปร่างและความต้องการของคุณ

 

บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับทุกแง่มุมของการดูดไขมันทั้งตัว ไม่ว่าจะเป็นเทคนิคที่ใช้ รีวิวจากผู้ใช้จริง ราคาโดยประมาณในปัจจุบัน ไปจนถึงการเตรียมตัวก่อนและหลังทำ เพื่อให้คุณสามารถตัดสินใจได้อย่างมั่นใจ พร้อมเปลี่ยนรูปร่างทั้งร่างให้เป๊ะได้ในครั้งเดียวกับโรงพยาบาลเลอลักษณ์

ดูดไขมันทั้งตัว คืออะไร? ทำไมสายหุ่นเป๊ะถึงเลือกวิธีนี้

การ ดูดไขมันทั้งตัว (Full Body Liposuction) คือกระบวนการศัลยกรรมที่ใช้เทคนิคดูดไขมันออกจากหลายบริเวณของร่างกายภายในครั้งเดียว เช่น หน้าท้อง ต้นแขน ต้นขา หลัง เอว หรือแม้กระทั่งบริเวณแก้มและคาง จุดประสงค์คือการลดปริมาณไขมันส่วนเกินในร่างกายอย่างรวดเร็ว และปรับรูปทรงให้ดูสมส่วนมากยิ่งขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งการลดน้ำหนักแบบดั้งเดิมที่อาจใช้เวลานานหรือได้ผลไม่ทั่วถึงทุกจุด

 

ผู้ที่เลือกทำ ดูดไขมันทั้งตัว มักเป็นกลุ่มที่มีไขมันสะสมหลายบริเวณ และต้องการปรับรูปร่างแบบชัดเจนในครั้งเดียว เช่น ผู้ที่เคยลดน้ำหนักแต่ผิวหนังยังหย่อนคล้อย หรือมีไขมันเฉพาะจุดที่ลดยาก แม้ออกกำลังกายสม่ำเสมอ บางรายอาจเลือกดูดไขมันก่อนเริ่มต้นการฟิตหุ่นใหม่ เพื่อเร่งผลลัพธ์และสร้างแรงบันดาลใจในการดูแลรูปร่างในระยะยาว

 

ข้อดีของการดูดไขมันทั้งตัว คือการเปลี่ยนรูปร่างอย่างครบวงจรในเวลาอันรวดเร็ว เห็นผลลัพธ์ชัดเจนภายในไม่กี่สัปดาห์ ทั้งยังสามารถทำควบคู่กับเทคโนโลยีกระชับผิว เช่น BodyTite หรือ VASER ที่ช่วยให้ผิวตึง ไม่หย่อนคล้อยหลังดูดไขมัน โดยเฉพาะที่ โรงพยาบาลเลอลักษณ์ ซึ่งใช้เครื่องมือและเทคนิคที่ทันสมัยภายใต้การดูแลของศัลยแพทย์เฉพาะทาง ทำให้การดูดไขมันทั้งตัวมีความปลอดภัยและได้รูปร่างที่ดูสวยกลมกลืนยิ่งขึ้น

ดูดไขมันทั้งตัว vs ดูดเฉพาะจุด แตกต่างยังไง?

การดูดไขมันไม่ว่าจะเป็น ดูดไขมันทั้งตัว หรือ ดูดเฉพาะจุด ต่างมีจุดมุ่งหมายในการลดไขมันสะสมที่ลดยากผ่านการออกกำลังกายหรือควบคุมอาหาร แต่ลักษณะการทำและผลลัพธ์ที่ได้แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งการเลือกว่าจะทำแบบไหนนั้นขึ้นอยู่กับเป้าหมายรูปร่างของแต่ละคน

1.ดูดไขมันทั้งตัว
คือการดูดไขมันหลายตำแหน่งในร่างกายพร้อมกันภายในครั้งเดียว เช่น หน้าท้อง ต้นแขน ต้นขา หลัง สะโพก หรือเหนียง เหมาะกับผู้ที่มีไขมันสะสมทั่วร่าง และต้องการ ปรับรูปร่างทั้งระบบ ในเวลาอันรวดเร็ว เพื่อให้สัดส่วนสมดุล ลดขนาดร่างกายอย่างครอบคลุม และเสริมความมั่นใจทั้งภาพรวม

2.ดูดไขมันเฉพาะจุด
เหมาะกับผู้ที่มีรูปร่างค่อนข้างสมส่วนอยู่แล้ว แต่มีไขมันบางบริเวณที่ลดยาก เช่น พุงล่าง, ปีกด้านหลัง, ต้นแขน หรือเหนียง การดูดเฉพาะจุดจะช่วยปรับรูปร่างเล็ก ๆ ให้ดูชัดและได้รูปขึ้น เช่น สร้าง Waist Line หรือกำจัด “ห่วงยาง” รอบเอว

รายการเปรียบเทียบดูดไขมันทั้งตัวดูดไขมันเฉพาะจุด
พื้นที่ในการดูดไขมันหลายจุดทั่วร่างกายจุดใดจุดหนึ่ง เช่น หน้าท้อง ต้นแขน เป็นต้น
เหมาะสำหรับใครผู้มีไขมันสะสมทั่วร่าง ต้องการปรับรูปร่างครั้งเดียวผู้มีรูปร่างสมส่วนแต่มีไขมันเฉพาะจุดลดยาก
ผลลัพธ์เห็นผลรวดเร็วทั่วร่าง กู้รูปร่างใหม่แบบครบวงจรปรับรูปร่างเฉพาะบริเวณได้อย่างละเอียด
ระยะเวลาการทำนานกว่า ต้องวางแผนหลายจุดร่วมกัน ใช้เวลาน้อยกว่า ทำเฉพาะตำแหน่ง
ราคาสูงกว่า เนื่องจากครอบคลุมหลายบริเวณ ถูกกว่า เพราะทำแค่บางจุด
การพักฟื้นนานกว่า ขึ้นอยู่กับจำนวนบริเวณที่ทำพักฟื้นเร็วกว่า

การเลือกว่าจะทำแบบใด ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ในการดูดไขมันโดยตรง เช่น ทีมแพทย์ที่ โรงพยาบาลเลอลักษณ์ ที่พร้อมวิเคราะห์ปัญหา สัดส่วน และเสนอแนวทางการดูดไขมันที่ปลอดภัย ได้ผล และเหมาะสมที่สุดกับร่างกายของคุณ

ใครบ้างที่ “เหมาะสุด” กับการดูดไขมันทั้งตัว

แม้ว่าการดูดไขมันทั้งตัวจะให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนและครอบคลุม แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่เหมาะกับหัตถการนี้ การประเมินความเหมาะสมจึงเป็นขั้นตอนสำคัญก่อนตัดสินใจ สำหรับผู้ที่มีคุณสมัติดังต่อไปนี้ ถือว่าเหมาะสมที่สุดกับการทำ ดูดไขมันทั้งตัว

  1. ผู้ที่มีไขมันสะสมในหลายจุดทั่วร่างกาย
    คนที่มีไขมันสะสมทั่วร่าง เช่น ต้นแขน หน้าท้อง สะโพก ต้นขา หลัง และเหนียง จะได้รับประโยชน์สูงสุดจากการดูดไขมันทั้งตัว เพราะเป็นการลดไขมันพร้อมกันทุกตำแหน่ง ช่วยให้ร่างกายได้สัดส่วนสมดุล ไม่เสียสมดุลเฉพาะจุด
  2. ผู้ที่ต้องการเปลี่ยนแปลงรูปร่างครั้งใหญ่
    การดูดไขมันทั้งตัวเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการ รีเซ็ตรูปร่างใหม่ ไม่ว่าจะเพราะเป้าหมายสุขภาพ ความมั่นใจ หรือเตรียมตัวสำหรับโอกาสสำคัญ เช่น แต่งงาน เข้าร่วมการประกวด หรือเริ่มงานในสายอาชีพที่ต้องใช้ภาพลักษณ์
  3. คนที่เคยลดน้ำหนักแล้ว แต่ยังมีไขมันสะสมเฉพาะจุด
    แม้จะควบคุมอาหารและออกกำลังกายอย่างเคร่งครัด แต่บางครั้งไขมันในบางตำแหน่งก็ไม่ยอมหายไปง่าย ๆ เช่น หน้าท้องด้านล่าง หรือปีกหลัง การดูดไขมันทั้งตัวสามารถช่วยจัดการกับไขมันที่ดื้อต่อการเผาผลาญเหล่านี้ได้อย่างเห็นผล
  4. ผู้ที่มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง ไม่มีโรคประจำตัวรุนแรง
    เพื่อความปลอดภัยสูงสุด ผู้เข้ารับบริการควรมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง ไม่มีโรคเกี่ยวกับหัวใจ ปอด หรือระบบเลือด และไม่อยู่ในช่วงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร ซึ่งทาง โรงพยาบาลเลอลักษณ์ จะมีการตรวจร่างกายอย่างละเอียดก่อนรับการดูดไขมันทุกเคส
  5. ผู้ที่มีเป้าหมายชัดเจนและมีวินัยในการดูแลตัวเอง
    แม้การดูดไขมันจะช่วยลดสัดส่วนอย่างรวดเร็ว แต่หากไม่มีการดูแลร่างกายหลังทำ เช่น ใส่ชุดกระชับ ออกกำลังกายเบา ๆ และคุมอาหารอย่างเหมาะสม ก็อาจทำให้ไขมันกลับมาได้ ดังนั้น คนที่มีวินัยจะได้รับผลลัพธ์ที่ยั่งยืนที่สุด

อยากหุ่นเป๊ะ ดูดไขมันทั้งตัวบริเวณไหนได้บ้าง?

การดูดไขมันทั้งตัวเป็นการจัดการกับไขมันส่วนเกินแบบองค์รวม ครอบคลุมหลายจุดทั่วร่างกาย เพื่อให้รูปร่างได้สัดส่วน ดูสมดุล และกระชับมากขึ้น โดยในกระบวนการนี้สามารถดูดไขมันได้ในหลายบริเวณดังนี้

1.หน้าท้อง-เอว จุดเบิร์นไขมันอันดับ 1
หน้าท้องถือเป็นบริเวณยอดนิยมที่สุดสำหรับการดูดไขมัน เนื่องจากไขมันที่สะสมบริเวณนี้มักดื้อและลดได้ยาก แม้จะออกกำลังกายหรือควบคุมอาหาร การดูดไขมันบริเวณหน้าท้องและเอวจะช่วยให้สัดส่วนดูเพรียว เอวคอดเป็นรูปทรง “S-curve” และสามารถสวมเสื้อผ้าได้อย่างมั่นใจมากยิ่งขึ้น

2.ต้นแขน-ต้นขา ลาก่อนแขนล่ำ ขาใหญ่
หลายคนมีปัญหาแขนใหญ่ ใส่เสื้อแขนกุดไม่มั่นใจ หรือขาใหญ่จนทำให้รูปร่างดูตัน การดูดไขมันที่ต้นแขนและต้นขาช่วยลดขนาดรอบวงแขนและขา ทำให้ดูเรียวขึ้น เสริมให้รูปร่างโดยรวมดูเบาและสมส่วน

3.หลังบน-หลังล่าง เผยหลังเนียนเรียบในชุดเปิดหลัง
บริเวณแผ่นหลัง โดยเฉพาะช่วงด้านบนและด้านล่าง มักมีไขมันสะสมเป็นก้อน หรือเกิดเป็นรอยนูนเวลาสวมเสื้อในหรือบรา การดูดไขมันหลังช่วยเก็บแนวหลังให้เรียบ ลดรอยพับและทำให้ใส่เสื้อเปิดหลังหรือเดรสเข้ารูปได้สวย

4.แก้ม-คาง-เหนียง เฟซไลน์ชัด ไม่ต้องพึ่งฟิลเตอร์
แม้จะมีรูปร่างดี แต่หากใบหน้าดูอูม มีไขมันสะสมบริเวณแก้มและคาง อาจทำให้ใบหน้าดูไม่มีมิติ การดูดไขมันใบหน้าและเหนียงจะช่วยให้กรอบหน้าชัด เฟซไลน์คมชัดขึ้น ส่งผลให้ภาพรวมของบุคลิกภาพดูดีขึ้นอย่างชัดเจน

5.ดูดไขมันทั้งตัวพร้อมกระชับผิว เพิ่มผลลัพธ์ให้ปังขึ้น
หลังการดูดไขมัน ผิวหนังในบางจุดอาจเกิดอาการหย่อนคล้อยได้ โดยเฉพาะในผู้ที่มีปริมาณไขมันมาก การดูดไขมันแบบควบคู่กับเทคโนโลยีกระชับผิว เช่น BodyTite, J-Plasma หรือ RF จะช่วยให้ผิวแน่น ไม่หย่อนยาน และผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติยิ่งขึ้น

เทคนิคการดูดไขมันมีกี่แบบ อะไรบ้าง? เลือกให้เหมาะกับเป้าหมายของคุณ

การดูดไขมัน (Liposuction) เป็นหนึ่งในหัตถการยอดนิยมที่ช่วยกำจัดไขมันส่วนเกินเฉพาะจุด เพื่อปรับรูปร่างให้สมส่วน กระชับ และดูดีขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ ซึ่งในปัจจุบันมีหลากหลายเทคนิคที่แพทย์สามารถเลือกใช้ให้เหมาะสมกับเป้าหมายของผู้รับบริการ โดยแต่ละเทคนิคก็มีจุดเด่น จุดแตกต่าง และข้อควรระวังที่ต่างกันไป

ประเภทของเทคนิคดูดไขมันที่นิยมใช้

  1. Traditional Liposuction (การดูดไขมันแบบดั้งเดิม)
    เป็นเทคนิคพื้นฐานที่ใช้เครื่องดูดไขมันร่วมกับท่อ (Canula) ขนาดใหญ่สอดเข้าไปใต้ผิวหนัง เพื่อดูดไขมันออกโดยตรง เหมาะกับผู้ที่มีไขมันสะสมปริมาณมาก และต้องการกำจัดออกให้ชัดเจน
  2. VASER Liposuction (ดูดไขมันด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง)
    เทคโนโลยีใหม่ที่ใช้คลื่นอัลตราซาวด์ช่วยในการสลายไขมันก่อนดูดออก ทำให้สามารถดูดไขมันได้อย่างนุ่มนวล ลดความเสียหายต่อเนื้อเยื่อและเส้นเลือด
  3. BodyTite (ดูดไขมันพร้อมยกกระชับด้วยคลื่น RF)
    เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการดูดไขมันและกระชับผิวไปพร้อมกัน เทคโนโลยีนี้ใช้พลังงานคลื่นวิทยุ (Radio Frequency) ช่วยให้ผิวหนังแน่นกระชับ ลดความหย่อนคล้อยหลังดูดไขมัน
  4. Water Jet Assisted Liposuction (WAL)
    ใช้แรงดันน้ำช่วยแยกเซลล์ไขมันออกจากเนื้อเยื่อก่อนดูดออก เหมาะกับผู้ที่ต้องการเก็บเซลล์ไขมันไว้สำหรับการฉีดไขมันในบริเวณอื่น เช่น หน้าอกหรือใบหน้า
  5. Laser-Assisted Liposuction (SmartLipo)
    ใช้เลเซอร์ช่วยสลายไขมันก่อนดูดออก และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว ช่วยให้ผิวกระชับขึ้นหลังทำ
  6. เทคนิค X-pert liposculpt™ (เฉพาะของโรงพยาบาลเลอลักษณ์)
    เป็นเทคนิคเฉพาะทางที่คิดค้นโดยทีมแพทย์มากประสบการณ์ของโรงพยาบาลเลอลักษณ์ เน้นการดูดไขมันแบบแม่นยำตามหลักสรีระ มีแผลเล็กระดับไมโคร ลดอาการบวมช้ำ ฟื้นตัวไว ปลอดภัยสูง และเน้นความเรียบเนียนของผิวหลังทำ

ตารางเปรียบเทียบเทคนิคการดูดไขมันแต่ละแบบ

เทคนิคจุดเด่นหลักเหมาะกับใครการฟื้นตัวความกระชับของผิวความแม่นยำ
Traditional Liposuctionดูดไขมันปริมาณมากคนที่มีไขมันหนาแน่น ไม่เน้นกระชับผิว ปานกลางต่ำปานกลาง
VASER Liposuctionเจ็บน้อย ช้ำน้อย ดูดลึกได้แม่นยำคนที่ต้องการผลลัพธ์ชัดเจนและรวดเร็วเร็วปานกลางสูง
BodyTiteดูดไขมันพร้อมกระชับผิว คนที่มีผิวหย่อนคล้อยปานกลางสูง สูง
WAL (Water Jet)เซลล์ไขมันไม่เสีย ใช้สำหรับฉีดซ้ำได้ คนที่ต้องการฉีดไขมันบริเวณอื่นเร็วปานกลางปานกลาง
SmartLipo (Laser) กระชับผิวดี เลือดออกน้อยคนที่มีไขมันบางจุดและผิวเริ่มหย่อนคล้อยเร็วปานกลาง ปานกลาง
X-pert liposculpt™แผลเล็ก ฟื้นตัวไว เรียบเนียน ปลอดภัยคนที่ต้องการผลลัพธ์ธรรมชาติ ไม่มีคลื่นผิว เร็วมากสูงมากสูงมาก

การเลือกเทคนิคดูดไขมันที่เหมาะสมไม่เพียงขึ้นอยู่กับความต้องการของแต่ละคนเท่านั้น แต่ยังต้องพิจารณาถึงปริมาณไขมัน สภาพผิว ความยืดหยุ่น และเป้าหมายระยะยาว เทคนิคอย่าง X-pert liposculpt™ ที่โรงพยาบาลเลอลักษณ์จึงถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ได้รับการออกแบบมาอย่างครอบคลุมและปลอดภัย เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์สวยแบบรอบด้าน ฟื้นตัวไว และมั่นใจในมาตรฐานโรงพยาบาล

จุดเด่นของการดูดไขมันทั้งตัว ด้วยเทคนิค X-pert liposculpt™

ปลอดภัย เห็นผลไว สัดส่วนเป๊ะทุกมุมในแบบที่คุณต้องการ การดูดไขมันทั้งตัว (Full Body Liposuction) ถือเป็นการปรับรูปร่างในหลายจุดพร้อมกัน เช่น หน้าท้อง ต้นแขน ต้นขา เหนียง หรือแผ่นหลัง ซึ่งต้องใช้ความชำนาญสูงและเทคนิคที่แม่นยำเพื่อให้สัดส่วนออกมาได้สมดุล ดูเป็นธรรมชาติ และไม่เกิดความไม่เรียบของผิว หรือความหย่อนคล้อยหลังทำ

 

หนึ่งในเทคนิคที่ตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการดูดไขมันทั้งตัวให้ได้ผลลัพธ์ดีที่สุดคือ เทคนิค X-pert liposculpt™ ซึ่งเป็นเทคนิคเฉพาะของ โรงพยาบาลเลอลักษณ์ ที่คิดค้นจากประสบการณ์ดูดไขมันกว่า 24 ปี และปรับให้เหมาะกับหลักการสรีระศาสตร์เฉพาะบุคคล

จุดเด่นของ X-pert liposculpt™ สำหรับการดูดไขมันทั้งตัว

  • แผลเล็กระดับไมโคร ลดโอกาสการเกิดรอยแผลเป็น ช่วยให้แผลหายไว ไม่ต้องกังวลเรื่องรอยแผล
  • ดูดไขมันตามหลักสรีระศาสตร์ ช่วยให้รูปร่างหลังดูดไขมันมีความสมดุล ไม่โค้งเว้าผิดธรรมชาติ
  • ดูดไขมันเกลี้ยง ไม่เป็นคลื่น ไม่เป็นเปลือกส้ม พื้นผิวเรียบลื่น ไม่สะดุดตาแม้จะใส่เสื้อผ้าแนบเนื้อ
  • ลดความเสี่ยงผิวหย่อนคล้อย ด้วยการออกแบบการดูดที่แม่นยำ ทำให้ผิวดูกระชับ ไม่ย้วยหลังดูดไขมัน
  • เจ็บน้อย ฟื้นตัวเร็ว ด้วยเทคนิค SoftBlock™ ลดการบอบช้ำของเนื้อเยื่อ และช่วยให้ผู้รับบริการกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ไวขึ้น
  • ใช้เครื่องมือที่ผ่านการรับรองมาตรฐานสากล ปลอดภัยสูงสุดภายใต้การดูแลของแพทย์เฉพาะทาง

ตารางเปรียบเทียบการดูดไขมันทั้งตัว เทคนิค X-pert liposculpt™ vs เทคนิคทั่วไป

รายละเอียดเทคนิคทั่วไปเทคนิค X-pert liposculpt™ ที่เลอลักษณ์
ขนาดแผลใหญ่พอสมควรแผลเล็กระดับไมโคร
การควบคุมรูปร่างหลังดูดเสี่ยงโค้งเว้าผิดธรรมชาติทำตามหลักสรีระ ปรับให้เข้ารูปแบบพอดี
ผิวหลังดูดไขมันมีโอกาสเป็นคลื่น/เปลือกส้ม ผิวเรียบลื่น ไม่สะดุดตา
ความเสี่ยงเรื่องผิวหย่อนคล้อยปานกลางต่ำ ด้วยเทคนิคที่ป้องกันผิวหย่อนหลังทำ
ความเจ็บระหว่างทำและหลังทำ เจ็บปานกลางเจ็บน้อยลง ด้วยเทคนิค SoftBlock™
ระยะเวลาฟื้นตัว7-14 วัน3-7 วัน (แล้วแต่ร่างกายแต่ละคน)
ความปลอดภัยขึ้นอยู่กับสถานพยาบาลและเครื่องมือ สูง ด้วยแพทย์ประสบการณ์สูง + มาตรฐาน รพ.
ผลลัพธ์ที่ได้ เห็นผลแต่ยังมีข้อจำกัดในบางจุด ผลลัพธ์รอบด้าน ดูดีทุกมุมแบบไม่โป๊ะ

หากคุณกำลังวางแผนดูดไขมันทั้งตัวเพื่อรูปร่างที่มั่นใจ และต้องการให้ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติ ไม่เสี่ยงผิวไม่เรียบหรือหย่อนคล้อย เทคนิค X-pert liposculpt™ คือคำตอบ เพราะเป็นเทคนิคที่ครอบคลุมทุกมิติ ทั้งความแม่นยำ ความปลอดภัย การฟื้นตัว และความสมดุลของรูปร่าง

 

โดยเฉพาะหากคุณเลือกทำกับ โรงพยาบาลเลอลักษณ์ ซึ่งเป็นผู้นำด้านการดูดไขมันมากว่า 24 ปี มั่นใจได้ในมาตรฐานโรงพยาบาล ทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และเทคโนโลยีล้ำสมัยที่พร้อมดูแลคุณอย่างครบวงจร

ขั้นตอนการดูดไขมันทั้งตัว เป็นอย่างไร? รู้ไว้ก่อนตัดสินใจเพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์สวยสมใจ

การดูดไขมันทั้งตัว (Full Body Liposuction) ไม่ใช่เพียงการดูดไขมันเฉพาะจุดเท่านั้น แต่เป็นการวางแผนแบบองค์รวมเพื่อปรับรูปร่างให้ได้สัดส่วนสวยในครั้งเดียว ดังนั้นจึงต้องมีการเตรียมความพร้อมและวางแผนร่วมกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอย่างเป็นระบบ โดยมีขั้นตอนดังนี้

  1. ประเมินร่างกาย และวางแผนร่วมกับแพทย์
    ก่อนการดูดไขมันทั้งตัว แพทย์จะทำการตรวจร่างกายโดยละเอียด รวมถึงสอบถามประวัติสุขภาพ โรคประจำตัว การใช้ยา และไลฟ์สไตล์ เพื่อวางแผนการดูดไขมันที่เหมาะสมกับสภาพร่างกายและเป้าหมายของผู้รับบริการ อาจมีการกำหนดว่าแต่ละบริเวณจะดูดได้มากน้อยแค่ไหน เช่น หน้าท้อง, ต้นแขน, ต้นขา, เอว, หลัง, คาง ฯลฯ
  2. ตรวจสุขภาพเบื้องต้นก่อนเข้ารับการผ่าตัด
    เพื่อความปลอดภัยในการผ่าตัด ผู้รับบริการจะต้องเข้ารับการตรวจสุขภาพ เช่น ตรวจเลือด, ความดันโลหิต, คลื่นหัวใจ (EKG) และผลแล็บอื่น ๆ ตามที่แพทย์พิจารณา เพื่อประเมินความพร้อมของร่างกายก่อนเข้าสู่กระบวนการดูดไขมันทั้งตัว
  3. ดำเนินการดูดไขมันในห้องผ่าตัดปลอดเชื้อ
    ในวันผ่าตัด แพทย์จะทำการวาดตำแหน่งที่จะดูดไขมัน และเลือกใช้เทคนิคที่เหมาะสม เช่น VASER, BodyTite หรือ Tumescent ตามพื้นที่และเป้าหมายที่ตกลงไว้ ผู้รับบริการจะได้รับยาชาหรือยาสลบ (ขึ้นอยู่กับจำนวนจุดที่ทำ) เพื่อให้ไม่รู้สึกเจ็บระหว่างกระบวนการ ขั้นตอนจะเริ่มจากการฉีดสารน้ำและยาชาเข้าไปในชั้นไขมัน เพื่อลดการเสียเลือดและอาการบวม หลังจากนั้นจะใช้ท่อดูดไขมัน (Cannula) ดูดไขมันออกจากร่างกายอย่างแม่นยำ โดยแพทย์จะคำนึงถึงความสมดุล ความปลอดภัย และรูปร่างที่ได้สัดส่วน
  4. ดูแลหลังผ่าตัด และใส่ชุดกระชับอย่างต่อเนื่อง
    หลังการดูดไขมัน ผู้ป่วยจะต้องใส่ชุดกระชับสัดส่วนทันที เพื่อช่วยลดอาการบวมและกระชับผิวหนังให้อยู่ในทรงสวย ควรใส่อย่างน้อย 4-6 สัปดาห์ และหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ทำให้เกิดแรงดันในบริเวณที่ทำการดูดไขมัน  แพทย์จะนัดติดตามอาการเป็นระยะ ๆ เพื่อตรวจสอบผลลัพธ์ ความเรียบของผิว และฟื้นตัวตามลำดับ หากมีอาการผิดปกติ เช่น บวมมาก เลือดออก หรือเจ็บผิดปกติ ควรรีบแจ้งแพทย์ทันที

ดูดไขมันทั้งตัว ราคาเท่าไหร่? พร้อมเทคนิคเปรียบเทียบแบบรู้จริง

หลายคนที่สนใจ “ดูดไขมันทั้งตัว” มักมีคำถามสำคัญอย่างหนึ่งคือ “ราคาดูดไขมันทั้งตัวแพงไหม?” ซึ่งความจริงแล้วราคานั้นมีความหลากหลาย ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น พื้นที่ที่ทำ ปริมาณไขมัน เทคนิคที่ใช้ รวมถึงมาตรฐานของสถานพยาบาลที่ให้บริการ บทนี้จะช่วยคุณเข้าใจองค์ประกอบราคาทั้งหมดอย่างละเอียด เพื่อให้คุณสามารถวางแผนการเงินและเลือกบริการได้อย่างมั่นใจ

ราคาขึ้นอยู่กับอะไรบ้าง?

  1. บริเวณที่ดูดไขมัน ยิ่งดูดหลายจุด เช่น ต้นแขน หน้าท้อง เอว หลัง สะโพก ต้นขา ราคาจะเพิ่มตามจำนวนพื้นที่
  2. ปริมาณไขมันที่ดูด ถ้ามีไขมันปริมาณมาก อาจต้องใช้เวลาผ่าตัดนานขึ้น และใช้เทคนิคเฉพาะ ทำให้มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น
  3. เทคนิคที่เลือกใช้ เช่น VASER, BodyTite หรือดูดไขมันร่วมกับการกระชับผิว เทคโนโลยีแต่ละแบบมีต้นทุนต่างกัน
  4. มาตรฐานของสถานพยาบาล โรงพยาบาลที่มีทีมแพทย์เฉพาะทาง ห้องผ่าตัดปลอดเชื้อ และระบบดูแลหลังผ่าตัดครบวงจร ย่อมมีราคาสูงกว่าคลินิกทั่วไป

การดูดไขมันทั้งตัวในประเทศไทย โดยเฉพาะกับโรงพยาบาลที่ได้มาตรฐานสูง เช่น โรงพยาบาลเลอลักษณ์ จะช่วยให้ผู้เข้ารับบริการรู้สึกปลอดภัย อุ่นใจ และติดตามผลได้สะดวกกว่า ในขณะที่ราคาก็มีความสมเหตุสมผลเมื่อเทียบกับคุณภาพ

ดูดไขมันทั้งตัว ที่ไหนดี? เปิดเหตุผลที่เลอลักษณ์คือคำตอบ

เมื่อตัดสินใจว่าจะ “ดูดไขมันทั้งตัว” การเลือกสถานพยาบาลที่น่าเชื่อถือคือสิ่งสำคัญที่สุด เพราะนี่ไม่ใช่แค่เรื่องของความสวยงาม แต่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของชีวิตและสุขภาพอย่างแท้จริง โรงพยาบาลเลอลักษณ์ คือหนึ่งในผู้นำด้านการศัลยกรรมตกแต่งและรูปร่างในประเทศไทย ที่มีจุดแข็งในทุกด้านที่ผู้สนใจควรพิจารณา

1.ศัลยแพทย์เฉพาะทางมืออาชีพของเลอลักษณ์
ทีมแพทย์ที่โรงพยาบาลเลอลักษณ์ล้วนเป็นศัลยแพทย์เฉพาะทางที่มีประสบการณ์ในการดูดไขมันทั้งตัวมาแล้วหลายร้อยเคส ผ่านการอบรมเทคนิคจากทั้งในและต่างประเทศ อีกทั้งยังมีความเข้าใจในหลักสรีระศาสตร์ จึงสามารถออกแบบสัดส่วนให้เหมาะกับแต่ละบุคคลได้อย่างแม่นยำ ปลอดภัย และได้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ

2.เครื่องมือปลอดภัย มาตรฐานโรงพยาบาลแท้
โรงพยาบาลเลอลักษณ์มีการใช้เครื่องมือที่ทันสมัย และผ่านการรับรองมาตรฐานสากล เช่น ระบบดูดไขมันความถี่สูง (VASER) หรือเทคนิคดูดไขมันควบคู่กับกระชับผิว (BodyTite, RF-Lipo) ที่สามารถลดไขมันและช่วยให้ผิวเรียบแน่นโดยไม่ต้องพึ่งศัลยกรรมกระชับเพิ่มเติม

ไม่เพียงแค่ห้องผ่าตัดปลอดเชื้อและระบบฆ่าเชื้อครบถ้วน ยังมีห้องพักฟื้นแยกเฉพาะ พร้อมเจ้าหน้าที่พยาบาลดูแลอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง จึงมั่นใจได้ในทุกขั้นตอนตั้งแต่ก่อนทำ ระหว่างทำ และหลังทำ

3.เสียงจริงจากผู้ใช้บริการที่มั่นใจ
หนึ่งในเหตุผลที่ทำให้โรงพยาบาลเลอลักษณ์เป็นที่นิยมสำหรับการดูดไขมันทั้งตัวคือ “ผลลัพธ์ที่พิสูจน์ได้” ด้วยรีวิวจากผู้รับบริการจริงจำนวนมาก ซึ่งให้ความเห็นตรงกันว่า

  • รูปร่างเปลี่ยนแปลงชัดเจน
  • บริการมืออาชีพ ใส่ใจรายละเอียด
  • เจ็บน้อยกว่าที่คิด
  • การติดตามผลหลังทำมีความใส่ใจและเป็นระบบ

เว็บไซต์ของโรงพยาบาลยังมีรีวิวก่อน-หลัง (Before-After) แบบไม่ตกแต่งภาพ และมีวิดีโอสัมภาษณ์ผู้ใช้บริการจริง เพื่อประกอบการตัดสินใจ

หากคุณกำลังมองหาว่าจะ “ดูดไขมันทั้งตัวที่ไหนดี” โรงพยาบาลเลอลักษณ์คือตัวเลือกที่ควรพิจารณาเป็นลำดับต้น ๆ ด้วยประสบการณ์ด้านการดูแลรูปร่าง ความพร้อมของเครื่องมือ ทีมแพทย์เฉพาะทาง และบริการระดับโรงพยาบาล ทำให้มั่นใจในความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ได้อย่างแท้จริง

เตรียมตัวยังไงให้ “ดูดไขมันทั้งตัว” ได้ผลดีที่สุด

การดูดไขมันทั้งตัวเป็นหัตถการที่มีรายละเอียดมากกว่าการดูดเฉพาะจุด เพราะต้องอาศัยการประเมินร่างกายโดยรวม เพื่อวางแผนให้ได้ผลลัพธ์ที่สวยงาม กลมกลืน และปลอดภัยที่สุด ดังนั้นการเตรียมตัวก่อนทำถือว่าเป็นขั้นตอนสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม

ก่อนดูดไขมันต้องเตรียมตัวยังไง?

  • ตรวจสุขภาพร่างกายก่อนทำ ควรเข้ารับการตรวจร่างกายเพื่อประเมินความพร้อม เช่น ตรวจเลือด ความดัน ระดับน้ำตาล และการทำงานของตับ-ไต เพื่อความปลอดภัยขณะผ่าตัด
  • งดยาบางชนิดและอาหารเสริม เช่น แอสไพริน วิตามินอี หรือสมุนไพรที่ส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือด ควรหยุดอย่างน้อย 7-14 วันก่อนการดูดไขมัน
  • งดอาหารและน้ำตามคำแนะนำแพทย์ โดยทั่วไป แพทย์จะแนะนำให้งดน้ำและอาหารก่อนการผ่าตัดประมาณ 6-8 ชั่วโมง
  • พักผ่อนให้เพียงพอ นอนหลับให้ครบ 6-8 ชั่วโมงในคืนก่อนผ่าตัด เพื่อให้ร่างกายมีภูมิต้านทานพร้อมรับการฟื้นตัว

หลังทำต้องดูแลอะไรบ้าง? ใส่ชุดกระชับ/พักฟื้น

  • ใส่ชุดกระชับอย่างต่อเนื่อง อย่างน้อย 1-3 เดือนเพื่อให้ผิวหนังแนบชิดกับชั้นกล้ามเนื้อ ช่วยลดอาการบวม และป้องกันผิวหย่อนคล้อย
  • หลีกเลี่ยงกิจกรรมหนัก งดออกกำลังกายหนักหรือยกของหนักในช่วง 2-4 สัปดาห์แรกเพื่อให้ร่างกายฟื้นตัวได้เต็มที่
  • ดื่มน้ำและทานอาหารมีประโยชน์ เพื่อช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวเร็วขึ้น และลดความเสี่ยงการติดเชื้อหลังการผ่าตัด

เลี่ยงพฤติกรรมแบบไหนให้หุ่นสวยอยู่ยาว

  • หลีกเลี่ยงอาหารมันจัด หวานจัด หรือของทอด
  • ไม่สูบบุหรี่และงดแอลกอฮอล์ เพราะมีผลต่อการหายของแผล
  • ไม่ควรทำหัตถการอื่นซ้ำซ้อนทันทีหลังดูดไขมัน เช่น ฉีดสารเติมเต็มหรือเลเซอร์โดยไม่ปรึกษาแพทย์

คำถามที่พบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับการ ดูดไขมันทั้งตัว

Q: ดูดไขมันทั้งตัวเจ็บไหม?
A: โดยทั่วไปแพทย์จะใช้ยาชาหรือยาสลบเฉพาะจุดก่อนทำ จึงทำให้ระหว่างการดูดไขมันจะไม่รู้สึกเจ็บ อาจมีอาการตึง ๆ หรือระบมบริเวณที่ดูดไขมันหลังทำประมาณ 3-7 วัน ซึ่งสามารถบรรเทาได้ด้วยยาและการดูแลอย่างเหมาะสม

 

Q: ต้องพักฟื้นนานแค่ไหนหลังดูดไขมันทั้งตัว?
A: ผู้ป่วยส่วนใหญ่มักสามารถกลับไปทำงานเบา ๆ ได้ภายใน 3-7 วัน แต่การฟื้นตัวเต็มที่อาจใช้เวลาประมาณ 2-4 สัปดาห์ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับร่างกายแต่ละบุคคลและจำนวนบริเวณที่ดูดไขมัน

 

Q: ผลลัพธ์ของการดูดไขมันทั้งตัวอยู่ได้นานแค่ไหน?
A: หากดูแลตัวเองอย่างเหมาะสม เช่น ควบคุมอาหารและออกกำลังกายสม่ำเสมอ ผลลัพธ์สามารถอยู่ได้นานหลายปี เพราะเซลล์ไขมันที่ถูกดูดออกไปจะไม่กลับมาอีก แต่หากรับประทานมากเกินไป เซลล์ไขมันที่เหลืออาจขยายตัวได้

 

Q: ทำดูดไขมันทั้งตัวแล้วจะกลับมาอ้วนอีกไหม?
A: เซลล์ไขมันที่ถูกดูดออกไปจะไม่กลับมา แต่หากไม่ควบคุมอาหารหรือไม่ออกกำลังกายอย่างต่อเนื่อง ไขมันในร่างกายส่วนอื่น ๆ อาจเพิ่มขึ้นได้ จึงควรรักษาน้ำหนักและพฤติกรรมการใช้ชีวิตอย่างเหมาะสมหลังการทำ

 

Q: ดูดไขมันทั้งตัวสามารถทำร่วมกับศัลยกรรมอื่นได้ไหม?
A: ได้ค่ะ โดยเฉพาะการทำร่วมกับการกระชับผิวหรือเสริมหน้าอก แต่ต้องให้แพทย์ประเมินร่างกายและวางแผนร่วมกันก่อนเสมอ เพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

 

Q: หลังดูดไขมันทั้งตัวต้องใส่ชุดกระชับกี่วัน?
A: โดยทั่วไปแนะนำให้ใส่ชุดกระชับต่อเนื่องอย่างน้อย 4-6 สัปดาห์ เพื่อช่วยให้ผิวกระชับ ลดอาการบวม และช่วยให้รูปร่างเข้าทรงเร็วขึ้น

 

Q: ดูดไขมันทั้งตัวทำที่ไหนดี?
A: ควรเลือกสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐาน มีแพทย์เฉพาะทางศัลยกรรมตกแต่ง และอุปกรณ์ครบครัน เช่น โรงพยาบาลเลอลักษณ์ ซึ่งมีประสบการณ์ในการดูดไขมันทั้งตัว พร้อมระบบดูแลหลังการผ่าตัดที่ครบวงจร