หากคุณกำลังมองหาวิธีเสริมหน้าอกให้ดูสวย อวบอิ่ม และเป็นธรรมชาติโดยไม่พึ่งพาซิลิโคน “การฉีดไขมันหน้าอก” คือหนึ่งในทางเลือกยอดนิยมที่ผู้หญิงยุคใหม่กำลังให้ความสนใจมากขึ้น ด้วยเทคนิคที่ใช้ไขมันจากร่างกายของตัวเองมาปรับรูปทรงหน้าอก ไม่เพียงช่วยเพิ่มขนาดอย่างเป็นธรรมชาติ แต่ยังปลอดภัย ลดโอกาสการเกิดผลข้างเคียงจากสิ่งแปลกปลอม
บทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักกับการฉีดไขมันหน้าอกแบบเจาะลึก ตั้งแต่หลักการทำงาน เทคนิค ข้อดี-ข้อเสีย รีวิวจริงจากผู้ใช้บริการ ไปจนถึงราคาล่าสุด และคำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่ โรงพยาบาลเลอลักษณ์ หนึ่งในสถานที่ศัลยกรรมตกแต่งที่มีมาตรฐานระดับสูงในไทย
ฉีดไขมันหน้าอก คืออะไร? เหมาะกับใคร และปลอดภัยจริงหรือ?
ฉีดไขมันหน้าอก (Breast Fat Transfer หรือ Fat Grafting Breast Augmentation) คือหัตถการเสริมหน้าอกโดยใช้ไขมันจากร่างกายของตัวเอง โดยแพทย์จะทำการดูดไขมันส่วนเกินจากบริเวณต่าง ๆ เช่น หน้าท้อง ต้นขา หรือสะโพก ผ่านเครื่องมือที่ปลอดภัย แล้วนำไขมันนั้นมาผ่านกระบวนการคัดแยกจนได้ “ไขมันบริสุทธิ์” ก่อนนำกลับมาฉีดเข้าไปในชั้นเนื้อเยื่อเต้านม เพื่อเสริมให้หน้าอกดูอวบอิ่มและเป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น
การฉีดไขมันหน้าอกถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกยอดนิยมสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการเสริมซิลิโคน เน้นความเป็นธรรมชาติ ไม่มีสิ่งแปลกปลอม และเหมาะกับผู้ที่ต้องการเพิ่มขนาดหน้าอกเล็กน้อยประมาณ 0.5 – 1 คัพ
จุดเด่นของการฉีดไขมันหน้าอก
- ใช้ ไขมันตัวเอง ลดความเสี่ยงเรื่องแพ้หรือการต่อต้านจากร่างกาย
- ไม่มีสิ่งแปลกปลอมอยู่ในร่างกาย เหมาะสำหรับผู้ที่กังวลเรื่องซิลิโคน
- แผลเล็ก ฟื้นตัวเร็ว ไม่ต้องผ่าตัดใหญ่
- ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ เนื้อสัมผัสนุ่มกว่าซิลิโคน
- ได้ประโยชน์สองทางจากการดูดไขมันในส่วนที่ไม่ต้องการออกไปพร้อมกัน
ฉีดไขมันหน้าอกเหมาะกับใครบ้าง?
กลุ่มที่เหมาะกับการฉีดไขมันหน้าอก
- ผู้หญิงที่ต้องการเพิ่มขนาดหน้าอกเล็กน้อยประมาณ 0.5 – 1 คัพ
- ผู้ที่มีไขมันสะสมในร่างกายเพียงพอ เช่น บริเวณหน้าท้อง ต้นขา
- ผู้ที่ต้องการหน้าอกที่นุ่มและดูธรรมชาติ
- ผู้ที่กังวลเรื่องการใส่วัสดุเทียม เช่น ซิลิโคน
กลุ่มที่ควรปรึกษาแพทย์เพิ่มเติมก่อนทำ
- ผู้ที่มีรูปร่างผอมมาก ไม่มีไขมันเพียงพอ
- ผู้ที่สูบบุหรี่จัด หรือมีปัญหาเกี่ยวกับการไหลเวียนของเลือด
- ผู้ที่คาดหวังการเพิ่มขนาดหน้าอกแบบชัดเจนมาก (มากกว่า 1-2 คัพ)
ฉีดไขมันหน้าอกดีไหม? ทำไมผู้หญิงยุคใหม่ถึงเลือกวิธีนี้
การฉีดไขมันหน้าอกกลายเป็นทางเลือกยอดนิยมในปัจจุบัน โดยเฉพาะในกลุ่มผู้หญิงที่ต้องการ เสริมหน้าอกอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่อยากใส่ซิลิโคน และต้องการดู “ไม่ศัลยกรรม” จนเกินไป อีกทั้งยังเป็นการเสริมหน้าอกควบคู่กับการดูดไขมัน จึงได้ผลลัพธ์แบบ 2 in 1 ทั้งหน้าอกที่สวย และสัดส่วนที่กระชับขึ้น
เหตุผลที่หลายคนเลือกฉีดไขมันหน้าอก
- ได้หน้าอกที่ดู ละมุน นุ่มมือ ไม่แข็งเป็นบล็อก เหมือนบางเคสของซิลิโคน
- ไม่มีวัตถุแปลกปลอม จึง ไม่ต้องกังวลเรื่องการรั่ว หรือพังผืดรัดซิลิโคน
- ไม่มีแผลผ่าตัดใหญ่ ลดโอกาสเกิดแผลเป็นขนาดใหญ่
- ฟื้นตัวเร็ว พักฟื้นน้อย เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่
- ให้สัมผัสนุ่มเป็นธรรมชาติ ไม่เป็นก้อน ไม่เป็นบล็อก
- เหมาะกับผู้ที่กลัวการใส่ซิลิโคน หรือเคยมีประสบการณ์ไม่ดีจากการเสริมหน้าอกแบบเดิม
- เป็นการ “รีไซเคิล” ไขมันส่วนเกินให้เกิดประโยชน์ ทำให้ได้ทั้งหน้าอกที่สวยขึ้นและหุ่นที่กระชับขึ้นพร้อมกัน
ฉีดไขมันหน้าอก VS เสริมซิลิโคน แบบไหนดีกว่ากัน?
การเสริมหน้าอกในปัจจุบันมีให้เลือกหลากหลายวิธี โดยเฉพาะ 2 ทางเลือกยอดนิยมอย่าง “การฉีดไขมันหน้าอก” และ “การเสริมหน้าอกด้วยซิลิโคน” ซึ่งแต่ละวิธีมีข้อดีและข้อควรพิจารณาที่ต่างกันออกไป การเลือกแบบใดดีกว่านั้นขึ้นอยู่กับความต้องการส่วนบุคคล ลักษณะรูปร่าง และผลลัพธ์ที่คาดหวังจากการเสริมหน้าอก
หัวข้อเปรียบเทียบ | ฉีดไขมันหน้าอก | เสริมหน้าอกด้วยซิลิโคน |
---|---|---|
วัสดุที่ใช้ | ไขมันตัวเอง (ดูดจากหน้าท้อง/ต้นขา) | ซิลิโคนเกรดทางการแพทย์ |
ความเป็นธรรมชาติ | ดูเป็นธรรมชาติ นุ่มมือ ไม่เป็นบล็อก | อาจดูชัดเจนกว่า โดยเฉพาะในคนผอมมาก |
ขนาดที่สามารถเพิ่มได้ | เพิ่มขนาดได้ 0.5 – 1 คัพโดยเฉลี่ย | เพิ่มได้หลายคัพตามต้องการ (ปรับขนาดได้มากกว่า) |
ความคงทน | ไขมันอาจสลายบางส่วน อยู่ได้เฉลี่ย 1-5 ปี | คงทนระยะยาว 10-20 ปี หรือมากกว่า (ขึ้นอยู่กับการดูแล) |
ระยะพักฟื้น | พักฟื้นไม่นาน บวมช้ำน้อยกว่า | พักฟื้นมากกว่าบ้าง โดยเฉพาะหากใช้แผลใหญ่ |
การเกิดพังผืดหรือผลแทรกซ้อน | ไม่มีพังผืด เพราะไม่มีสิ่งแปลกปลอม | อาจเกิดพังผืดรัดซิลิโคนได้ในบางเคส |
การมีแผลเป็น | แผลเล็กบริเวณที่ดูดไขมัน (2-3 มม.) | แผลขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่ผ่าตัด เช่น ใต้อก, รักแร้ หรือปานนม |
เหมาะกับใคร | ผู้ที่ต้องการอกธรรมชาติ เพิ่มขนาดเล็กน้อย มีไขมันสะสมเพียงพอ | ผู้ที่ต้องการเพิ่มขนาดชัดเจน มีเนื้อหน้าอกน้อย ต้องการผลลัพธ์ชัดเจน |
ข้อจำกัด | ปริมาณไขมันอาจไม่พอในคนรูปร่างผอม | ต้องเลือกขนาดซิลิโคนให้พอดีกับฐานหน้าอกเพื่อป้องกันปัญหาในอนาคต |
ฉีดไขมันหน้าอก อยู่ได้นานแค่ไหน? เสริมครั้งเดียวจบจริงหรือ?
หลายคนที่สนใจฉีดไขมันหน้าอก มักจะมีคำถามสำคัญว่า “ไขมันที่ฉีดเข้าไปจะอยู่ได้นานแค่ไหน?” และ “ต้องฉีดซ้ำหรือไม่?” ซึ่งคำตอบนั้นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ทั้งลักษณะร่างกายของแต่ละคน เทคนิคที่ใช้ รวมถึงการดูแลตัวเองหลังทำด้วย
ปัจจัยที่ส่งผลต่อการคงอยู่ของไขมัน
การอยู่รอดของไขมันที่ฉีดเข้าสู่หน้าอก ไม่ได้ขึ้นอยู่แค่กับแพทย์เพียงอย่างเดียว แต่ยังมีหลายองค์ประกอบ เช่น
- คุณภาพของไขมันที่ดูดออกมา หากผ่านกระบวนการแยกอย่างถูกต้อง ไขมันจะมีโอกาสอยู่รอดได้มากขึ้น
- เทคนิคการฉีดของแพทย์ การฉีดแบบกระจายไขมันเป็นชั้นๆ (Layered technique) จะช่วยให้ไขมันติดได้ดีกว่า
- สภาพร่างกายของผู้รับบริการ คนที่มีสุขภาพดี ระบบไหลเวียนเลือดดี จะช่วยให้ไขมันใหม่ได้รับสารอาหารและอยู่รอดได้นานขึ้น
- การดูแลตัวเองหลังฉีด หลีกเลี่ยงการกดทับหน้าอก การสูบบุหรี่ และควบคุมน้ำหนักไม่ให้ลดลงมากในระยะเวลาสั้นๆ จะช่วยรักษาไขมันไว้ได้นาน
หัวข้อ | ฉีดไขมันหน้าอก | เสริมซิลิโคน |
---|---|---|
ความคงทน | อยู่ได้ 1-5 ปี ไขมันบางส่วนจะสลายภายใน 6 เดือนแรก | อยู่ได้ 10-20 ปี หรือมากกว่าตามการดูแลรักษา |
ความเป็นธรรมชาติ | นุ่มมือ เป็นธรรมชาติกว่า | รูปทรงชัดเจน อาจดูไม่เป็นธรรมชาติในบางราย |
โอกาสในการฉีดซ้ำ | อาจต้องเติมซ้ำหากไขมันสลายเกิน 40-50% | ไม่จำเป็นต้องทำซ้ำหากไม่มีปัญหาพังผืดหรือรูปร่างผิดปกติ |
การเปลี่ยนแปลงตามน้ำหนัก | ขนาดหน้าอกอาจลดลงหากน้ำหนักตัวลดลงมาก | ไม่เปลี่ยนตามน้ำหนัก แต่มีโอกาสเลื่อนหากไม่ดูแลอย่างเหมาะสม |
การฉีดไขมันหน้าอกสามารถอยู่ได้นานพอสมควร โดยเฉลี่ย 1-5 ปี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย และอาจต้องมีการเติมซ้ำในบางรายเพื่อคงผลลัพธ์ให้สวยงามต่อเนื่อง หากคุณต้องการความเป็นธรรมชาติและไม่อยากใช้ซิลิโคน นี่คืออีกหนึ่งทางเลือกที่ตอบโจทย์
ฉีดไขมันหน้าอก ข้อดี-ข้อเสียที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจ
แม้ว่าการ ฉีดไขมันหน้าอก จะเป็นหนึ่งในทางเลือกยอดนิยมของผู้หญิงยุคใหม่ ที่อยากเพิ่มความมั่นใจให้รูปร่างโดยไม่ใช้ซิลิโคน แต่การตัดสินใจทำศัลยกรรมไม่ว่าจะรูปแบบไหน ย่อมต้องมีข้อมูลที่ครบถ้วน โดยเฉพาะเรื่อง “ข้อดี-ข้อเสีย” ที่ผู้สนใจต้องรู้ก่อนเข้ารับบริการจริง
ในหัวข้อนี้เราจะพาคุณมาสำรวจข้อดีของการฉีดไขมันหน้าอก ทั้งเรื่องความเป็นธรรมชาติ ความปลอดภัย ไปจนถึงข้อจำกัดและผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้ เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจได้อย่างมั่นใจ และเหมาะสมกับความต้องการของร่างกายตัวเองมากที่สุด
ข้อดีของการฉีดไขมันหน้าอก
การฉีดไขมันหน้าอกได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในหมู่ผู้หญิงยุคใหม่ เพราะเป็นการเพิ่มขนาดหน้าอกโดยใช้ไขมันของตัวเอง ซึ่งให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติและลดความเสี่ยงจากสิ่งแปลกปลอม
ข้อดีของการฉีดไขมันหน้าอก ได้แก่
- เป็นธรรมชาติ หน้าอกที่ได้จะนุ่มฟู เคลื่อนไหวได้ดี ใกล้เคียงกับหน้าอกจริง
- ลดไขมันส่วนเกิน เพราะต้องดูดไขมันจากส่วนเกิน เช่น หน้าท้อง ต้นขา เอว มาใช้
- ไม่ต้องใส่สิ่งแปลกปลอมในร่างกาย ลดโอกาสเกิดพังผืดหรือภาวะแทรกซ้อนจากซิลิโคน
- ไม่มีแผลขนาดใหญ่ เพราะเป็นการฉีดด้วยเข็มเล็ก ทำให้แผลเล็ก ฟื้นตัวไว
- สามารถทำซ้ำได้ หากต้องการเพิ่มขนาดอีกในอนาคต ก็สามารถเติมได้อีก
ข้อเสียของการฉีดไขมันหน้าอก
- ไขมันบางส่วนอาจสลาย โดยเฉพาะในช่วง 3 เดือนแรก อาจเหลือเพียง 50-70%
- ขนาดที่เพิ่มขึ้นจำกัด ไม่สามารถเพิ่มขนาดได้มากเท่าการเสริมซิลิโคน
- ต้องมีไขมันเพียงพอ คนที่ผอมมากอาจไม่มีไขมันให้ดูดไปใช้
- เสี่ยงเกิดก้อนไขมันแข็งหากฉีดไม่ถูกวิธี หากแพทย์ไม่มีประสบการณ์เพียงพอ
- อาจต้องฉีดซ้ำในอนาคต เพื่อคงผลลัพธ์ตามที่ต้องการ
ฉีดไขมันหน้าอกที่ไหนดี? ที่เลอลักษณ์ ดีอย่างไร
การเลือกสถานพยาบาลสำหรับ ฉีดไขมันหน้าอก ถือเป็นขั้นตอนที่สำคัญไม่น้อยไปกว่าการตัดสินใจทำศัลยกรรม เพราะแม้ว่าการฉีดไขมันจะดูเป็นหัตถการที่ไม่ซับซ้อน แต่ในความเป็นจริงต้องอาศัยความแม่นยำ ความเชี่ยวชาญ และเทคโนโลยีที่ปลอดภัย เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาสวยและอยู่ได้นาน โดยไม่เกิดผลข้างเคียง
- แพทย์ต้องมีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางศัลยกรรมหน้าอก
- มีประสบการณ์ด้านการฉีดไขมันโดยตรง
- ใช้เครื่องมือดูดไขมันและแยกไขมันที่ปลอดเชื้อ
- มีการคัดเลือกไขมันคุณภาพสูง (Pure Fat)
- มีห้องผ่าตัดปลอดเชื้อระดับมาตรฐานโรงพยาบาล
- มีรีวิวจากผู้ใช้จริงจำนวนมาก และผลลัพธ์ที่น่าเชื่อถือ
ทำไมต้องฉีดไขมันหน้าอกที่โรงพยาบาลเลอลักษณ์
โรงพยาบาลเลอลักษณ์ เป็นหนึ่งในโรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่งที่ได้รับความไว้วางใจจากผู้ใช้บริการทั่วประเทศ ด้วยประสบการณ์ในวงการมากกว่า 20 ปี และทีมศัลยแพทย์เฉพาะทางที่ผ่านการอบรมเทคนิคฉีดไขมันหน้าอกจากต่างประเทศโดยเฉพาะ ที่นี่จึงมีความพร้อมทั้งในด้านความรู้ เครื่องมือ และความปลอดภัย
จุดเด่นของการฉีดไขมันหน้าอกที่เลอลักษณ์
- ทีมแพทย์เฉพาะทางศัลยกรรมหน้าอก ที่มีประสบการณ์และรีวิวแน่น
- ใช้เทคนิค Fat Grafting ขั้นสูง แยกเฉพาะไขมันดี เติมหน้าอกให้นุ่มสวยธรรมชาติ
- ดูดไขมันจากจุดที่ลูกค้าเลือก เช่น หน้าท้อง ต้นขา แล้วนำมาฉีดกลับอย่างปลอดภัย
- ไม่ต้องนอนพักข้ามคืน และมีบริการดูแลหลังการฉีดอย่างใกล้ชิด
- มีบริการตรวจติดตามผลหลังทำอย่างต่อเนื่อง
ขั้นตอนการศัลยกรรมฉีดไขมันหน้าอก
การ ฉีดไขมันหน้าอก (Fat Transfer Breast Augmentation) คือเทคนิคศัลยกรรมที่ใช้ไขมันส่วนเกินจากร่างกายของคนไข้เอง มาฉีดเติมเต็มเข้าไปในบริเวณหน้าอก เพื่อเพิ่มขนาด เสริมทรง และปรับรูปทรงให้ดูอวบอิ่ม สวยเป็นธรรมชาติ โดยไม่ต้องใช้ซิลิโคน ซึ่งขั้นตอนทั้งหมดนี้ต้องดำเนินการโดยศัลยแพทย์ตกแต่งเฉพาะทางที่มีความเชี่ยวชาญ และดำเนินในสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐาน เช่น โรงพยาบาลเลอลักษณ์
- ปรึกษาและวางแผนกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
- ประเมินความเหมาะสมของรูปร่าง สัดส่วนไขมัน และความคาดหวังของคนไข้
- ระบุจุดที่ต้องการดูดไขมัน เช่น หน้าท้อง ต้นขา หรือสะโพก
- อธิบายรายละเอียดวิธีการฉีดไขมัน ข้อจำกัด และผลลัพธ์ที่เป็นไปได้
- ถ่ายภาพก่อนการผ่าตัดเพื่อเปรียบเทียบผลลัพธ์ก่อน-หลัง
- การเตรียมตัวก่อนฉีดไขมัน
- งดอาหาร 6-8 ชั่วโมงก่อนทำ (กรณีใช้ยาสลบ)
- งดแอลกอฮอล์และบุหรี่ล่วงหน้าอย่างน้อย 1 สัปดาห์
- งดยาบางชนิด เช่น ยาต้านการแข็งตัวของเลือด ตามคำแนะนำของแพทย์
- ตรวจเลือดและประเมินความพร้อมของร่างกายก่อนเข้ารับการผ่าตัด
- ดูดไขมันจากบริเวณที่เลือก
- ใช้เทคนิคดูดไขมันแบบ Liposuction หรือ Vaser
- ดูดไขมันด้วยความระมัดระวัง ไม่ให้กระทบต่อเนื้อเยื่อหรือเส้นเลือด
- ปริมาณไขมันที่ใช้ได้ต้องเพียงพอและมีคุณภาพ
- แยกไขมันบริสุทธิ์ (Fat Purification)
- นำไขมันที่ได้เข้าสู่กระบวนการปั่นแยก
- กรองน้ำ เลือด และของเสียออก เหลือเพียงไขมันคุณภาพสูง
- ขั้นตอนนี้สำคัญต่อความอยู่รอดของไขมันหลังฉีด
- ฉีดไขมันเข้าสู่หน้าอก
- แพทย์จะฉีดไขมันเข้าเต้านมชั้นละเล็กน้อย เพื่อให้ไขมันกระจายตัว
- เทคนิคนี้เรียกว่า Micro Fat Grafting
- ไม่มีแผลใหญ่ จึงไม่ต้องเย็บแผล ฟื้นตัวไว และไม่ทิ้งรอยแผลเป็น
- การพักฟื้นและการดูแลหลังฉีด
- ควรหลีกเลี่ยงการนอนคว่ำ 1-2 สัปดาห์
- งดกิจกรรมหนัก เช่น การยกของ ออกกำลังกาย
- งดนวดหน้าอกหรือตบเพื่อกระชับ
- เข้ารับการตรวจติดตามผลตามนัดทุกครั้ง
การฉีดไขมันหน้าอกเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยและเป็นธรรมชาติ เหมาะกับผู้ที่มีไขมันส่วนเกินและต้องการเพิ่มขนาดหน้าอกเล็กน้อยถึงปานกลาง โดยไม่ต้องการซิลิโคน อย่างไรก็ตาม การเลือกสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐานและศัลยแพทย์เฉพาะทาง มีความสำคัญอย่างมากต่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่สวยงาม
ฉีดไขมันหน้าอกอันตรายไหม? มีความเสี่ยงอะไรบ้าง
แม้การฉีดไขมันหน้าอกจะถือว่าเป็นหัตถการที่ปลอดภัย แต่ก็มีข้อควรระวังและความเสี่ยงบางประการที่ต้องเข้าใจ เช่นเดียวกับการผ่าตัดอื่น ๆ
ความเสี่ยงที่อาจพบได้
- ไขมันบางส่วนอาจสลายหรือไม่ติด ทำให้หน้าอกกลับมาลดขนาดเล็กลง
- หากเทคนิคการฉีดไม่ถูกต้อง อาจทำให้เกิด ไขมันตาย และกลายเป็นพังผืดหรือก้อนแข็ง
- ในบางรายที่ดูดไขมันไม่เพียงพอ อาจ ต้องเติมซ้ำ ภายหลัง 6-12 เดือน
ทางออกเพื่อความปลอดภัย
- ควรทำกับ แพทย์เฉพาะทางด้านศัลยกรรมตกแต่ง ที่มีประสบการณ์
- เลือกโรงพยาบาลที่ได้มาตรฐาน เช่น โรงพยาบาลเลอลักษณ์ ซึ่งมีการใช้เครื่องมือทันสมัย คัดแยกไขมันบริสุทธิ์ และฉีดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางเท่านั้น
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการฉีดไขมันหน้าอก (FAQ)
Q: ฉีดไขมันหน้าอกเจ็บไหม?
A: โดยทั่วไปจะใช้ยาชาเฉพาะที่ หรืออาจใช้ยานอนหลับร่วมด้วย ทำให้รู้สึกไม่เจ็บขณะทำ หลังทำอาจมีอาการระบมเล็กน้อยบริเวณที่ดูดไขมันและฉีดไขมัน แต่สามารถบรรเทาได้ด้วยยาแก้ปวดที่แพทย์สั่ง
Q: ไขมันที่ฉีดเข้าไปอยู่ได้นานแค่ไหน?
A: ไขมันที่ฉีดเข้าไปจะสามารถอยู่ได้ประมาณ 50-70% โดยไขมันบางส่วนจะถูกดูดซึมภายใน 3-6 เดือนแรก หากดูแลดี ไขมันส่วนที่เหลือสามารถอยู่ได้นานหลายปี
Q: ฉีดไขมันหน้าอกอันตรายไหม?
A: หากทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐาน จะมีความปลอดภัยสูง เพราะใช้ไขมันจากร่างกายตนเอง ไม่เสี่ยงแพ้ อย่างไรก็ตาม หากเทคนิคไม่เหมาะสม อาจเสี่ยงเกิดก้อนแข็ง หรือไขมันตายบางส่วนได้
Q: ต้องฉีดซ้ำไหม? ฉีดครั้งเดียวพอหรือเปล่า?
A: สำหรับบางคน การฉีดครั้งเดียวอาจไม่เพียงพอ เนื่องจากไขมันบางส่วนจะสลายไป จึงอาจต้องมีการฉีดซ้ำ 1-2 ครั้ง เพื่อให้ได้ขนาดและรูปทรงที่พอใจ
Q: หลังฉีดไขมันหน้าอกสามารถให้นมบุตรได้ไหม?
A: ได้ตามปกติ เพราะไขมันจะถูกฉีดในชั้นเหนือกล้ามเนื้อ ไม่กระทบต่อเนื้อเยื่อต่อมน้ำนม จึงปลอดภัยต่อการให้นมในอนาคต
Q: ใครบ้างที่ไม่เหมาะกับการฉีดไขมันหน้าอก?
A: ผู้ที่มีไขมันในร่างกายน้อยเกินไป, ผู้ที่มีโรคประจำตัวรุนแรง เช่น เบาหวาน, หรือผู้ที่สูบบุหรี่จัด อาจไม่เหมาะกับการฉีดไขมัน และควรได้รับการประเมินจากแพทย์อย่างละเอียดก่อนทำ
Q: ฉีดไขมันหน้าอกใช้เวลาทำนานไหม?
A: ใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมง รวมขั้นตอนการดูดไขมัน, แยกไขมันบริสุทธิ์ และฉีดกลับเข้าสู่เต้านม หลังทำสามารถกลับบ้านได้ภายในวันเดียว