ดูดไขมันเหนียง กรอบหน้าชัด ลดคางสองชั้น เห็นผลไว ปลอดภัย ที่โรงพยาบาลเลอลักษณ์

เหนียงหรือไขมันใต้คาง เป็นหนึ่งในปัญหาที่หลายคนมองข้าม แต่กลับส่งผลอย่างมากต่อภาพรวมของรูปหน้า โดยเฉพาะในยุคที่ทุกมุมต้องเป๊ะ ไม่ว่าจะเซลฟี่ มุมเผลอ หรือประชุมผ่านกล้อง หากมีคางสองชั้นหรือแนวกรามไม่ชัด อาจทำให้หน้าดูใหญ่และดูมีอายุเกินจริง แม้จะพยายามออกกำลังกายหรือลดน้ำหนักแล้ว แต่ไขมันเหนียงกลับเป็นจุดที่ลดยากที่สุด

การดูดไขมันเหนียงจึงกลายเป็นตัวเลือกยอดนิยมในกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่อยากปรับรูปหน้าให้ดูชัดขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ และไม่ต้องพึ่งแอปแต่งรูปอีกต่อไป โดยเฉพาะที่โรงพยาบาลเลอลักษณ์ ซึ่งขึ้นชื่อในเรื่องการดูแลรูปหน้าแบบครบวงจร ทีมแพทย์เฉพาะทางจะวิเคราะห์อย่างละเอียดเพื่อเลือกเทคนิคที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล ช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่ปลอดภัย เห็นผลไว และดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด

บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับการ “ดูดไขมันเหนียง” ตั้งแต่สาเหตุของการเกิดเหนียง เทคนิคการดูดไขมันแบบต่าง ๆ ข้อควรรู้ก่อนและหลังทำ รวมถึงคำตอบของคำถามยอดฮิต เช่น ดูดไขมันเหนียงอันตรายไหม บวมกี่วัน และราคาเท่าไร พร้อมรีวิวจากเคสจริงที่เคยทำกับโรงพยาบาลเลอลักษณ์ เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น ว่าการดูดไขมันเหนียงนั้นเหมาะกับคุณหรือไม่

ดูดไขมันเหนียง คืออะไร? เหมาะกับใคร

ดูดไขมันเหนียง (Double Chin Liposuction) คือหัตถการทางการแพทย์ที่ช่วยกำจัดไขมันส่วนเกินบริเวณใต้คางออกจากร่างกายอย่างตรงจุด ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ไขมันมักสะสมได้ง่าย แต่กลับลดยากด้วยวิธีธรรมชาติ เช่น การควบคุมอาหารหรือออกกำลังกาย โดยเฉพาะในคนที่มีพันธุกรรมหรืออายุที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้เกิด “เหนียง” หรือคางสองชั้น ทำให้รูปหน้าดูไม่ชัดเจน ขาดความมั่นใจเมื่อต้องถ่ายรูปหรือพบปะผู้คน

 

การดูดไขมันเหนียงเป็นการใช้เข็มดูดไขมันขนาดเล็ก หรืออุปกรณ์เฉพาะที่ทันสมัย เช่น VASER หรือ BodyTite เข้าไปสลายและดูดเอาไขมันออกอย่างปลอดภัย หัตถการนี้ช่วยปรับรูปหน้าให้มีมิติมากขึ้น เห็นแนวกรามชัดขึ้น และช่วยให้ใบหน้าโดยรวมดูเรียวและอ่อนเยาว์โดยไม่ต้องผ่าตัดใหญ่ เหมาะกับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์แบบรวดเร็ว ชัดเจน และไม่ต้องพักฟื้นนาน

ใครบ้างที่เหมาะกับการดูดไขมันเหนียง?

การ ดูดไขมันเหนียง ไม่ใช่หัตถการสำหรับทุกคน แต่หากคุณกำลังมองหาวิธีปรับรูปหน้าให้เรียวคมขึ้นโดยไม่พึ่งการฉีดสารเติมเต็มหรือผ่าตัดใหญ่ การดูดไขมันเฉพาะจุดบริเวณใต้คางก็อาจเป็นคำตอบที่ใช่ โดยกลุ่มที่เหมาะกับการดูดไขมันเหนียงมีดังนี้

  1. ผู้ที่มีไขมันสะสมบริเวณใต้คางอย่างชัดเจน
    หากคุณมี “คางสองชั้น” หรือเหนียงที่เห็นได้ชัดแม้มีรูปร่างผอม การดูดไขมันเหนียงจะช่วยลดไขมันเฉพาะจุดได้อย่างแม่นยำ ทำให้ใบหน้าดูเรียวและคมชัดมากขึ้น
  2. ผู้ที่อายุยังน้อย ผิวหน้ายังมีความกระชับ
    คนที่มีอายุไม่มาก หรือยังมีความกระชับของผิวดีอยู่ จะเหมาะอย่างยิ่งกับการดูดไขมันเหนียง เพราะหลังทำ ผิวสามารถหดตัวกลับเข้าแนวกรอบหน้าได้อย่างเป็นธรรมชาติ โดยไม่ทำให้เกิดปัญหาผิวหย่อนคล้อย
  3. ผู้ที่มีสุขภาพแข็งแรง ไม่มีโรคประจำตัวร้ายแรง
    แม้ ดูดไขมันเหนียง จะเป็นหัตถการที่มีความเสี่ยงต่ำ แต่ก็ยังต้องอาศัยร่างกายที่ฟื้นตัวได้เร็ว ผู้ที่ไม่มีปัญหาโรคหัวใจ เบาหวาน หรือโรคเลือด จะสามารถเข้ารับบริการได้อย่างปลอดภัยมากขึ้น
  4. ผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าให้คมขึ้นโดยไม่ต้องผ่าตัดใหญ่
    หากคุณต้องการให้กรอบหน้าดูชัดขึ้น ลดความอวบหรือกลมของใบหน้า โดยไม่ต้องตัดกระดูก หรือดึงหน้า การดูดไขมันเหนียงคือทางเลือกที่ตรงจุด ใช้เวลาไม่นาน ไม่ต้องพักฟื้นนาน และให้ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติ
  5. ผู้ที่เคยลดน้ำหนักแล้วแต่เหนียงยังไม่หาย
    มีหลายคนที่สามารถลดน้ำหนักลงได้สำเร็จ แต่กลับพบว่าเหนียงยังคงอยู่เหมือนเดิม นั่นเพราะไขมันใต้คางอาจเป็น “ไขมันดื้อ” ที่ไม่ตอบสนองต่อการควบคุมอาหารหรือออกกำลังกาย ซึ่งในกรณีนี้ การดูดไขมันเหนียงจะเป็นวิธีที่ได้ผลกว่ามาก

ใครบ้างที่ยังไม่เหมาะกับการดูดไขมันเหนียง

แม้ว่าการ ดูดไขมันเหนียง จะเป็นหัตถการที่ปลอดภัยและให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนสำหรับหลายคน แต่ก็มีบางกลุ่มที่ยังไม่เหมาะสมหรือควรปรึกษาแพทย์อย่างละเอียดก่อนตัดสินใจ เพราะอาจมีความเสี่ยงหรือไม่ได้ผลลัพธ์ตามที่คาดหวัง ดังนี้

  1. ผู้ที่มีปัญหาผิวหนังหย่อนคล้อยมาก
    หากผิวบริเวณเหนียงหย่อนคล้อยเกินไป การดูดไขมันเพียงอย่างเดียวอาจทำให้เกิดปัญหา “ผิวเหี่ยว” หลังทำ เนื่องจากผิวไม่สามารถหดตัวกลับคืนรูปได้ดีพอ ผู้ที่มีภาวะนี้อาจต้องพิจารณาหัตถการอื่นร่วมด้วย เช่น การร้อยไหม หรือการใช้เทคโนโลยีกระชับผิวแบบ RF ควบคู่กัน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สวยงามยิ่งขึ้น
  2. ผู้ที่มีโรคประจำตัวบางประเภท
    เช่น โรคเกี่ยวกับระบบหัวใจ ความดันโลหิตสูงที่ควบคุมไม่ได้ โรคเบาหวานขั้นรุนแรง ภาวะเลือดแข็งตัวยาก หรือโรคทางระบบภูมิคุ้มกัน ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพเหล่านี้ควรหลีกเลี่ยงการทำหัตถการที่มีการรบกวนเนื้อเยื่อ แม้ว่า ดูดไขมันเหนียง จะเป็นการผ่าตัดเล็ก แต่ก็ยังมีความเสี่ยงในบางกรณี
  3. ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
    เนื่องจากการดูดไขมันต้องใช้ยาชาเฉพาะที่หรือในบางรายอาจมีการให้ยาร่วม ซึ่งอาจส่งผลต่อทารกหรือการให้นมได้ จึงควรรอให้พ้นระยะตั้งครรภ์หรือหยุดให้นมก่อน
  4. ผู้ที่มีความคาดหวังไม่สมจริง
    เช่น คาดหวังว่าจะทำให้หน้าผอมลงทั้งหมด หรือเปลี่ยนโครงหน้าทั้งรูปแบบ ทั้งที่ความจริงการ ดูดไขมันเหนียง จะช่วยเฉพาะการลดไขมันส่วนเกินใต้คางและเน้นให้กรอบหน้าชัดขึ้นเท่านั้น ไม่สามารถเปลี่ยนโครงสร้างใบหน้าโดยรวมได้ ผู้ที่คาดหวังมากเกินควรปรึกษาแพทย์เพื่อทำความเข้าใจข้อจำกัดของหัตถการก่อน

เทคนิคการดูดไขมันเหนียงมีกี่แบบ แตกต่างกันอย่างไร

การดูดไขมันเหนียงในปัจจุบันมีให้เลือกหลายเทคนิค ขึ้นอยู่กับปริมาณไขมัน สภาพผิวของแต่ละบุคคล และเป้าหมายของการปรับรูปหน้า เทคนิคแต่ละแบบมีจุดเด่นที่ต่างกัน ซึ่งหากเลือกเทคนิคที่เหมาะสม ก็จะช่วยให้ผลลัพธ์ออกมาชัดเจน ปลอดภัย และฟื้นตัวไว โดยเฉพาะเทคนิคเฉพาะทางอย่าง X-pert liposculpt™ ที่ใช้เฉพาะในโรงพยาบาลเลอลักษณ์ ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่กำลังได้รับความนิยมสูง

  1. เทคนิค Microcannula
    ใช้เข็มขนาดเล็กระดับไมโครในการดูดไขมัน ทำให้แผลมีขนาดเล็ก ช้ำน้อย เหมาะกับผู้ที่มีไขมันปริมาณน้อย ต้องการปรับกรอบหน้าเพียงเล็กน้อย จุดเด่นคือฟื้นตัวไว แผลเล็ก และรอยแผลแทบมองไม่เห็น
  2. เทคนิค VASER Liposuction
    เทคนิคนี้ใช้พลังงานคลื่นเสียงความถี่สูงในการสลายไขมันก่อนดูดออก ทำให้ดูดไขมันออกได้ง่ายขึ้น ลดความเสียหายต่อเนื้อเยื่อรอบข้าง ช่วยกระชับผิวในระดับหนึ่ง เหมาะกับคนที่มีไขมันปานกลางถึงมาก ต้องการปรับโครงหน้าให้คมชัดขึ้น
  3. เทคนิค BodyTite
    เป็นการใช้พลังงาน Radio Frequency (RF) ในการสลายไขมันและกระตุ้นการกระชับผิวในขั้นตอนเดียว เหมาะสำหรับผู้ที่มีไขมันร่วมกับผิวหย่อนคล้อย ป้องกันการเกิดปัญหาผิวหย่อนหลังดูดไขมัน
  4. เทคนิค X-pert liposculpt™ (เฉพาะที่โรงพยาบาลเลอลักษณ์)
    เทคนิคนี้เป็นเทคนิคเฉพาะทางที่คิดค้นและพัฒนาขึ้นโดยทีมแพทย์ของโรงพยาบาลเลอลักษณ์ ซึ่งมีประสบการณ์ด้านการดูดไขมันมากกว่า 24 ปี จุดเด่นของ X-pert liposculpt™ คือการผสมผสานหลายองค์ความรู้ด้านสรีระศาสตร์ ความปลอดภัย และความละเอียดอ่อนในการออกแบบใบหน้าให้เหมาะสมกับแต่ละคน

จุดเด่นของ X-pert liposculpt™ ได้แก่

  • แผลเล็กระดับไมโคร ซ่อนแผลในจุดลับสายตา ไม่เห็นรอยแผลหลังทำ
  • ดูดไขมันตามหลักสรีระศาสตร์ ทำให้รูปหน้าได้สัดส่วน ไม่มีปัญหาโค้งเว้าผิดธรรมชาติ
  • เกลี้ยง ไม่เป็นคลื่น ไม่เป็นเปลือกส้ม ดูดไขมันอย่างแม่นยำทุกมุม ไม่เหลือก้อนไขมันสะสม
  • กระชับผิวในตัว ลดความเสี่ยงผิวหย่อนหลังทำ
  • ใช้เทคนิค SoftBlock™ ลดความเจ็บระหว่างทำ ทำให้รู้สึกสบายกว่าการดูดไขมันแบบเดิม
  • ปลอดภัยสูง แพทย์มีประสบการณ์จริงหลายหมื่นเคส เครื่องมือได้มาตรฐานระดับสากล

ตารางเปรียบเทียบเทคนิคดูดไขมันเหนียง

เทคนิคจุดเด่นเหมาะกับใครฟื้นตัวไว
Microcannulaแผลเล็ก ช้ำน้อยคนที่ไขมันน้อย ต้องการปรับเล็กน้อย
VASER สลายไขมันเร็ว ช่วยกระชับ ไขมันปานกลาง-มาก
BodyTiteกระชับผิว + สลายไขมัน ผิวหย่อนคล้อย + ไขมัน
X-pert liposculpt™ครบทุกมิติ ปลอดภัยสูง ฟื้นตัวไวคนที่ต้องการความเนียน กรอบหน้าชัด✅✅✅

เลือกเทคนิคแบบไหนให้เหมาะกับคุณ?

หากคุณมีไขมันเหนียงปริมาณเล็กน้อย และต้องการการเปลี่ยนแปลงแบบธรรมชาติ เทคนิค Microcannula อาจเพียงพอ แต่หากต้องการผลลัพธ์ที่ชัดเจน กรอบหน้าคม คางชัด และผิวเรียบเนียน เทคนิค X-pert liposculpt™ ที่โรงพยาบาลเลอลักษณ์ คือทางเลือกที่ตอบโจทย์ที่สุด ด้วยความปลอดภัย ความเชี่ยวชาญของทีมแพทย์ และการดูแลที่ครอบคลุมทุกขั้นตอน

เทคนิค X-pert liposculpt™ ที่โรงพยาบาลเลอลักษณ์ ต่างจากเทคนิคอื่นอย่างไร ดีกว่าอย่างไร?

ในวงการศัลยกรรมดูดไขมัน การเลือกเทคนิคที่เหมาะสมคือหัวใจสำคัญของผลลัพธ์ที่ปลอดภัยและได้รูปทรงที่สวยงามอย่างแท้จริง หนึ่งในเทคนิคที่เป็นเอกลักษณ์และพัฒนาโดยทีมแพทย์เฉพาะทางของโรงพยาบาลเลอลักษณ์ คือ X-pert liposculpt™ ซึ่งคิดค้นจากประสบการณ์จริงกว่า 24 ปีของการดูแลคนไข้หลายหมื่นเคส

เทคนิคนี้ไม่ได้เป็นเพียงการ “ดูดไขมัน” แต่เป็นการ “ออกแบบรูปร่าง” ให้เข้ากับสรีระอย่างแท้จริง ผ่านแนวคิด การดูดไขมันเชิงโครงสร้าง (Anatomical Fat Sculpting) ซึ่งต่างจากเทคนิคทั่วไปอย่างชัดเจน ดังนี้

จุดเด่นของเทคนิค X-pert liposculpt™

  • แผลเล็กระดับไมโคร แทบไม่ทิ้งรอย แพทย์ซ่อนแผลในจุดที่ลับสายตา
  • ลดความเสี่ยงผิวหย่อนคล้อย ด้วยวิธีวางทิศทางการดูดไขมันตามหลักแรงตึงผิว
  • ดูดเกลี้ยง ไม่เป็นคลื่น ไม่เป็นเปลือกส้ม
  • ดูดตามหลักสรีระศาสตร์ ไม่ทำให้รูปร่างเบี้ยวหรือผิดธรรมชาติ
  • ปลอดภัยสูง เพราะเป็นเทคนิคเฉพาะที่ใช้กับเครื่องมือรับรองมาตรฐานสากล
  • เจ็บน้อย ชิลกว่าเดิม ด้วยเทคโนโลยี SoftBlock™ ลดแรงกระแทกและความเจ็บ
  • ใช้กับทุกบริเวณของร่างกาย ได้ทั้งเหนียง แขน เอว หน้าท้อง ต้นขา ฯลฯ

ตารางเปรียบเทียบ X-pert liposculpt™ กับเทคนิคดูดไขมันทั่วไป

รายละเอียดเทคนิคทั่วไปX-pert liposculpt™ (โรงพยาบาลเลอลักษณ์)
ขนาดแผลแผลขนาดกลาง–เล็กแผลระดับไมโคร ซ่อนในจุดลับสายตา
ความแม่นยำในการดูดไขมัน ปานกลางแม่นยำสูง ดูดตามหลักสรีระแต่ละบุคคล
รูปทรงหลังทำอาจเกิดคลื่น ผิวไม่เรียบเรียบเนียน ไม่เป็นเปลือกส้ม
ความเสี่ยงผิวหย่อนมีโอกาสห้อยหรือต้องกระชับซ้ำ ลดความเสี่ยงจากการหย่อนคล้อยทันทีหลังทำ
ความเจ็บระหว่างทำรู้สึกเจ็บเล็กน้อยถึงปานกลาง เจ็บน้อยลงด้วย SoftBlock™
ความปลอดภัยและมาตรฐานขึ้นอยู่กับคลินิกหรือแพทย์ แพทย์เฉพาะทางมากประสบการณ์ + ห้องผ่าตัดปลอดเชื้อ
ผลลัพธ์ ต้องใช้เวลาเห็นผลบางเคส เห็นสัดส่วนเปลี่ยนแปลงทันทีหลังทำ

ทำไม X-pert liposculpt™ จึงเหนือกว่าการดูดไขมันทั่วไป?

เพราะที่โรงพยาบาลเลอลักษณ์ไม่ได้เน้นเพียงแค่ “เอาไขมันออก” แต่ให้ความสำคัญกับ “การจัดโครงสร้างของรูปร่างใหม่” ด้วยทักษะและประสบการณ์ระดับท็อปของวงการศัลยกรรม ร่วมกับการใช้เครื่องมือที่ปลอดภัยผ่านมาตรฐานสากล เพื่อให้คุณมั่นใจได้ทั้งในด้านความงามและสุขภาพในระยะยาว

ขั้นตอนการดูดไขมันเหนียง ตั้งแต่เตรียมตัวจนถึงฟื้นตัว

การดูดไขมันเหนียงไม่ใช่เพียงแค่หัตถการเสริมความงามธรรมดา แต่คือกระบวนการที่ต้องอาศัยความแม่นยำ ปลอดภัย และการวางแผนอย่างเป็นระบบ โดยเฉพาะเมื่อเลือกทำกับโรงพยาบาลที่มีเทคนิคเฉพาะ เช่น X-pert liposculpt™ ที่โรงพยาบาลเลอลักษณ์ ซึ่งช่วยให้ผลลัพธ์กรอบหน้าชัด เหนียงหาย หน้าเรียวได้รูปในแบบที่ปลอดภัยและไม่ทิ้งรอย

การเตรียมตัวก่อนดูดไขมันเหนียง

ก่อนการดูดไขมันเหนียง ผู้รับบริการจะต้องเข้ารับการปรึกษากับแพทย์เฉพาะทาง เพื่อประเมินรูปหน้า ปริมาณไขมันที่ต้องดูด และวางแผนตำแหน่งในการทำหัตถการ โดยแพทย์จะเลือกใช้เทคนิคที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล ในกรณีของโรงพยาบาลเลอลักษณ์ จะมีการประเมินว่าผู้รับบริการเหมาะกับเทคนิค X-pert liposculpt™ หรือไม่ โดยจะพิจารณาจากระดับความหนาของชั้นไขมัน ความยืดหยุ่นของผิว และเป้าหมายของคนไข้

คำแนะนำในการเตรียมตัวเบื้องต้น 

  • งดวิตามินหรือยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น แอสไพริน หรือวิตามิน E อย่างน้อย 7 วันก่อนทำ
  • งดสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์
  • แจ้งแพทย์หากมีโรคประจำตัว หรือเคยผ่าตัดบริเวณคอมาก่อน
  • เตรียมเสื้อผ้าสวมง่ายเพื่อสะดวกหลังทำหัตถการ

ขั้นตอนระหว่างทำหัตถการ (ด้วยเทคนิค X-pert liposculpt™)

ที่โรงพยาบาลเลอลักษณ์ การดูดไขมันเหนียงจะใช้เทคนิคเฉพาะ X-pert liposculpt™ ซึ่งเป็นเทคนิคที่พัฒนาโดยทีมแพทย์ของโรงพยาบาลเอง ด้วยจุดเด่นคือ แผลเล็กระดับไมโคร, ดูดตามหลักสรีระ, ไม่เกิดคลื่นผิว หรือเปลือกส้ม, และใช้ SoftBlock™ technology ช่วยลดความเจ็บขณะทำ

ขั้นตอนการดูดเหนียงไขมันประกอบด้วย

  1. ทำความสะอาดและฆ่าเชื้อบริเวณเหนียงและกรอบหน้า
  2. กำหนดตำแหน่งจุดแผลขนาดเล็กระดับไมโคร เพื่อซ่อนรอยแผลในจุดลับสายตา
  3. ฉีดยาชาเฉพาะจุดหรือวางยาสลบ (กรณีต้องการ)
  4. ใช้เครื่องมือดูดไขมันแบบเฉพาะทางของ X-pert liposculpt™ ที่ออกแบบให้แม่นยำ ไม่ทำลายเนื้อเยื่อ
  5. ดูดไขมันอย่างสมดุล ไม่มากหรือน้อยเกินไป เพื่อให้ได้โครงหน้าชัด เรียว และสมดุลกับสรีระใบหน้า

การดูแลหลังทำ และการฟื้นตัว

หลังดูดไขมันเหนียงเสร็จเรียบร้อย ผู้รับบริการจะได้รับคำแนะนำเฉพาะบุคคล และเข้าสู่กระบวนการดูแลหลังทำอย่างครบวงจร โดยทีมพยาบาลและแพทย์เฉพาะทางจะติดตามอาการอย่างใกล้ชิด เพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีภาวะแทรกซ้อน และผลลัพธ์เป็นไปตามเป้าหมาย

คำแนะนำทั่วไปในการดูแลหลังทำ

  • ใส่ ผ้ารัดรูปบริเวณคาง (chin strap) ตลอด 24 ชม. ในช่วง 3–5 วันแรก เพื่อช่วยกระชับผิวให้เข้ารูป
  • ประคบเย็นใน 48 ชม. แรก เพื่อลดบวมและรอยช้ำ
  • หลีกเลี่ยงการนอนราบ ควรนอนหนุนหมอนสูงในช่วงสัปดาห์แรก
  • ห้ามจับ กด บริเวณที่ทำแรง ๆ
  • รับประทานยาตามที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด
  • งดออกกำลังกายหนักหรือกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีดแรงประมาณ 2 สัปดาห์
  • กลับมาพบแพทย์ตามนัดเพื่อประเมินผล

ระยะเวลาฟื้นตัว

  • อาการบวมจะค่อย ๆ ลดลงภายใน 3–7 วัน
  • สามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติภายใน 1–2 วัน
  • เห็นผลลัพธ์ชัดเจนมากขึ้นใน 2–4 สัปดาห์ และเข้าที่สุดภายใน 2–3 เดือน

การดูดไขมันเหนียงด้วยเทคนิค X-pert liposculpt™ ที่โรงพยาบาลเลอลักษณ์ ไม่เพียงให้ผลลัพธ์กรอบหน้าชัด คางเรียว แต่ยังเน้นเรื่องความปลอดภัย ความเจ็บน้อย และการฟื้นตัวไว ด้วยการวางแผนอย่างละเอียดและการดูแลหลังทำที่ครบวงจร เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเปลี่ยนรูปหน้าให้มั่นใจขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติและปลอดภัย หากคุณกำลังมองหาสถานที่ที่ดูดไขมันเหนียงได้อย่างมีคุณภาพ มีทีมแพทย์เฉพาะทาง พร้อมเทคนิคเฉพาะด้าน โรงพยาบาลเลอลักษณ์ คือคำตอบที่คุณสามารถไว้วางใจได้

ดูดไขมันเหนียง กรอบหน้าชัดจริงไหม? เห็นผลแค่ไหน

หลายคนที่มีปัญหา “เหนียง” หรือไขมันสะสมใต้คาง มักรู้สึกว่าใบหน้าดูอ้วน อูม หรือไร้มิติ ไม่ว่าจะถ่ายรูป มองกระจก หรือแม้แต่ประชุมออนไลน์ก็อดรู้สึกขาดความมั่นใจไม่ได้ การ ดูดไขมันเหนียง จึงกลายเป็นอีกหนึ่งหัตถการที่ได้รับความนิยมสูง เพราะเป็นวิธีช่วยคืนความชัดเจนของกรอบหน้าได้จริง โดยไม่ต้องผ่าตัดใหญ่

เห็นผลชัดเจนแค่ไหน?

หลังการทำ ดูดไขมันเหนียง โดยเฉพาะเทคนิคที่ทันสมัย เช่น VASER หรือ BodyTite ผู้เข้ารับบริการจะเริ่มเห็นผลเบื้องต้นภายใน 1–2 สัปดาห์ และเห็นผลชัดเต็มที่เมื่อร่างกายฟื้นตัวสมบูรณ์ประมาณ 1–3 เดือน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของแต่ละบุคคลด้วย

  • ใบหน้าเรียวขึ้นชัดเจน โดยเฉพาะบริเวณแนวกรามและคางสองชั้นที่เคยเด่นชัดจะลดลงอย่างเห็นได้ชัด
  • โครงหน้าดูสมส่วนมากขึ้น โดยไม่ต้องใช้แอปฟิลเตอร์หรือเทคนิคแต่งหน้าเพื่อปกปิดเหนียงอีกต่อไป
  • ช่วยให้ดูเด็กลง เพราะการไม่มีเหนียงช่วยทำให้ภาพรวมใบหน้าดูยกกระชับ และมีมิติ

หลังจากทำครั้งแรกต้องทำซ้ำไหม?

ในกรณีที่ไขมันสะสมไม่มาก และมีการดูแลรักษารูปร่างอย่างต่อเนื่อง เช่น ควบคุมอาหาร ออกกำลังกาย การดูดไขมันเหนียงอาจไม่จำเป็นต้องทำซ้ำ อย่างไรก็ตาม หากมีพฤติกรรมที่ทำให้ไขมันกลับมาสะสม เช่น น้ำหนักขึ้นมาก หรือมีความหย่อนคล้อยตามวัย อาจต้องพิจารณาการกระชับเพิ่มเติมในอนาคต

การดูดไขมันเหนียงเป็นวิธีที่สามารถคืนความชัดเจนของกรอบหน้าได้อย่างเห็นผลจริง ปลอดภัย และไม่ต้องพักฟื้นนาน โดยเฉพาะเมื่อทำกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและเลือกใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมกับแต่ละเคส ดังนั้น หากคุณกำลังมองหาวิธีลดเหนียงอย่างถาวร ดูดไขมันเหนียง คือคำตอบที่หลายคนให้ความไว้วางใจ

ดูดไขมันเหนียง ข้อเสียมีอะไรบ้าง? มีผลข้างเคียงหรือไม่

แม้ว่าการ ดูดไขมันเหนียง จะเป็นหัตถการที่ช่วยปรับรูปหน้าให้ชัด ลดคางสองชั้น และเพิ่มความมั่นใจได้อย่างมาก แต่ในฐานะที่เป็นการทำหัตถการทางการแพทย์ ก็ย่อมมีข้อเสียและผลข้างเคียงที่ควรรับรู้ก่อนตัดสินใจ เพื่อประเมินความเหมาะสมและเตรียมตัวอย่างถูกต้อง

ข้อเสียของการดูดไขมันเหนียง

  1. อาจมีรอยช้ำหรือบวมหลังทำ
    หลังดูดไขมันเหนียง ร่างกายอาจมีอาการบวม ช้ำ หรือรู้สึกตึงบริเวณใต้คางในช่วง 3–7 วันแรก ซึ่งเป็นอาการปกติและจะค่อยๆ ดีขึ้นเมื่อเข้าสู่ระยะฟื้นฟู
  2. ผลลัพธ์อาจไม่ชัด หากผิวหนังหย่อนคล้อยมาก
    สำหรับผู้ที่มีผิวใต้คางหย่อนคล้อยมาก แม้ไขมันจะถูกดูดออกไปแล้ว แต่ผิวอาจไม่กระชับพอ ทำให้เห็นผลลัพธ์ไม่ชัดเจนเท่าที่ควร อาจจำเป็นต้องเสริมด้วยหัตถการยกกระชับอื่น เช่น HIFU หรือ BodyTite
  3. ต้องพักฟื้นและใส่ผ้ารัดหน้า
    หลังทำควรใส่ผ้ารัดหน้าเพื่อช่วยกระชับผิว ซึ่งบางคนอาจรู้สึกไม่สะดวก หรือต้องจัดสรรเวลาพักฟื้นประมาณ 1 สัปดาห์
  4. มีโอกาสเกิดพังผืดหรือผิวไม่เรียบ
    ในบางรายที่ดูแลหลังทำไม่ถูกต้อง อาจเกิดพังผืดใต้ผิว หรือผิวขรุขระจากการดูดไขมันที่ไม่สม่ำเสมอ
  5. ต้องทำกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น
    หากทำกับผู้ไม่มีประสบการณ์ อาจเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อน เช่น เส้นประสาทถูกกระทบ กระดูกกรามเสียรูป หรือแผลติดเชื้อได้

ผลข้างเคียงที่พบได้จากการดูดไขมันเหนียง

  • บวม แดง ตึง บริเวณที่ดูดไขมัน โดยเฉพาะในช่วง 1–3 วันแรก
  • เจ็บปวดเล็กน้อย ซึ่งสามารถทานยาแก้ปวดตามคำแนะนำของแพทย์
  • รอยฟกช้ำ จากการสอดเข็มและดูดไขมัน ซึ่งจะจางลงภายใน 1–2 สัปดาห์
  • อาการชาเล็กน้อย ที่บริเวณใต้คาง เนื่องจากปลายประสาทถูกกระทบเล็กน้อยขณะทำหัตถการ ซึ่งมักจะหายไปได้เองภายใน 1–3 เดือน

วิธีลดความเสี่ยงจากผลข้างเคียง

  • เลือกดูดไขมันเหนียงกับแพทย์ที่มีประสบการณ์เฉพาะด้าน
  • ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด
  • ใส่ผ้ารัดหน้าตามเวลาที่กำหนด
  • หลีกเลี่ยงการจับ บีบ หรือกดแรงบริเวณที่ทำหัตถการ
  • หมั่นสังเกตอาการผิดปกติ เช่น มีหนอง แดงร้อนผิดปกติ หรือไข้ และรีบพบแพทย์ทันที

การ ดูดไขมันเหนียง ถือเป็นวิธีที่ปลอดภัยหากทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและในสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐาน อย่างไรก็ตาม ผู้เข้ารับบริการควรตระหนักถึงข้อเสียและผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น พร้อมเตรียมตัวและดูแลหลังทำอย่างเหมาะสม เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สวยงามและปลอดภัยในระยะยาว

ดูดไขมันเหนียง ที่ไหนดี? ทำไมต้องที่โรงพยาบาลเลอลักษณ์

การเลือกสถานที่สำหรับ ดูดไขมันเหนียง เป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะนอกจากผลลัพธ์ที่ต้องการแล้ว ความปลอดภัยและมาตรฐานการบริการก็เป็นปัจจัยที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ หากคุณกำลังมองหาสถานพยาบาลที่มีความเชี่ยวชาญและน่าเชื่อถือ โรงพยาบาลเลอลักษณ์เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของคุณ

ทำไมต้องเลือกดูดไขมันเหนียงที่โรงพยาบาลเลอลักษณ์?

  1. ทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง
    โรงพยาบาลเลอลักษณ์มีทีมแพทย์ที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านการดูดไขมัน โดยเฉพาะบริเวณเหนียงและกรอบหน้า ซึ่งเป็นบริเวณที่ต้องการความละเอียดและความแม่นยำสูง
  2. เทคโนโลยีทันสมัย
    ใช้เทคโนโลยี VASER LipoSelection ซึ่งเป็นนวัตกรรมการดูดไขมันที่ได้รับการยอมรับจาก US FDA และ อย.ไทย โดยใช้คลื่นเสียงความถี่สูงในการสลายไขมัน ทำให้สามารถดูดไขมันออกมาได้อย่างมีประสิทธิภาพและลดการบาดเจ็บของเนื้อเยื่อรอบข้าง
  3. มาตรฐานความปลอดภัยระดับสากล
    ห้องผ่าตัดปลอดเชื้อด้วยระบบ HEPA Filter และมีระบบ Oxygen Pipeline พร้อมเครื่องมือช่วยเหลืออย่างครบครันภายในห้องผ่าตัด มาตรฐานเดียวกับโรงพยาบาลระดับสากล
  4. บริการหลังการทำครบวงจร
    มีการติดตามผลและให้คำแนะนำการดูแลหลังการทำอย่างใกล้ชิด เพื่อให้ผลลัพธ์ที่ได้เป็นไปตามที่คาดหวังและลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อน
  5. โปรโมชั่นและราคาที่คุ้มค่า
    โรงพยาบาลเลอลักษณ์มีโปรโมชั่นสำหรับการดูดไขมันเหนียงในราคาที่คุ้มค่า พร้อมบริการที่ครอบคลุมและมาตรฐานระดับโรงพยาบาล
  6. รีวิวจากผู้ใช้บริการจริง
    หลายคนที่เคยเข้ารับบริการ ดูดไขมันเหนียง ที่โรงพยาบาลเลอลักษณ์ ต่างพูดถึงผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ กรอบหน้าชัดเจนขึ้น เหนียงลดลงอย่างเห็นได้ชัด และการบริการที่เป็นมืออาชีพ ทำให้รู้สึกมั่นใจและประทับใจในผลลัพธ์ที่ได้รับ

หากคุณกำลังมองหาสถานที่ที่มีความเชี่ยวชาญ มาตรฐานสูง และบริการที่ครบวงจรสำหรับการ ดูดไขมันเหนียง โรงพยาบาลเลอลักษณ์เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ ที่จะช่วยให้คุณได้ผลลัพธ์ที่พึงพอใจ พร้อมความมั่นใจในความปลอดภัยและคุณภาพของการบริการ

คำถามที่พบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับการดูดไขมันเหนียง

Q: ดูดไขมันเหนียงเจ็บไหม?
A: ขณะทำหัตถการจะมีการใช้ยาชาเฉพาะที่หรือยาสลบชนิดอ่อน ผู้เข้ารับบริการจะไม่รู้สึกเจ็บ แต่หลังยาชาหมดฤทธิ์ อาจมีอาการตึงหรือระบมเล็กน้อยคล้ายออกกำลังกายหนัก ซึ่งสามารถบรรเทาได้ด้วยยาแก้ปวดตามคำแนะนำของแพทย์

 

Q: หลังดูดไขมันเหนียงบวมกี่วัน?
A: อาการบวมมักเกิดในช่วง 1–3 วันแรก และจะค่อยๆ ลดลงภายใน 7–10 วัน โดยทั่วไปแนะนำให้ใส่ผ้ารัดหน้าอย่างน้อย 1–2 สัปดาห์เพื่อช่วยลดบวมและกระชับรูปหน้า

 

Q: ดูดไขมันเหนียงใช้เวลาทำนานไหม?
A: ระยะเวลาในการทำอยู่ที่ประมาณ 1–2 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับเทคนิคที่ใช้และปริมาณไขมัน หลังทำสามารถกลับบ้านได้เลย ไม่ต้องนอนพักฟื้นที่โรงพยาบาล

 

Q: ต้องพักงานไหมหลังดูดไขมันเหนียง?
A: สามารถกลับไปทำงานได้ภายใน 1–3 วัน แต่ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ต้องเคลื่อนไหวรุนแรง เช่น วิ่งหรือออกกำลังกายหนัก อย่างน้อย 1 สัปดาห์

 

Q: หลังดูดไขมันเหนียงสามารถกลับมาเป็นซ้ำได้อีกไหม?
A: หากควบคุมอาหารและออกกำลังกายอย่างเหมาะสม ไขมันบริเวณเหนียงจะไม่กลับมาเยอะเหมือนเดิม แต่หากน้ำหนักเพิ่มมากขึ้นจนเกินควบคุม ก็มีโอกาสกลับมาได้

 

Q: ดูดไขมันเหนียงต้องทำซ้ำไหม?
A: โดยทั่วไปการดูดไขมันเหนียง 1 ครั้งสามารถให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนและถาวร แต่หากมีการเปลี่ยนแปลงของน้ำหนักตัวอย่างมาก อาจจำเป็นต้องมีการปรับรูปหน้าเพิ่มเติมในอนาคต

 

Q: ดูดไขมันเหนียงที่ไหนดี?
A: ควรเลือกสถานพยาบาลที่มีใบอนุญาตถูกต้องตามกฎหมาย มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรม และมีเทคโนโลยีเครื่องมือที่ทันสมัย เช่น โรงพยาบาลเลอลักษณ์ ที่มีทีมแพทย์เฉพาะทางด้านรูปหน้าโดยตรง พร้อมบริการดูแลหลังทำแบบครบวงจร